จากที่เราเห็นกระทู้คำถามประมาณว่า “จะไปเรียนที่เมกา ป.ตรี ต้องเริ่มต้นยังไง”
เราก็เลยขอมาตอบแบ่งปันประสบการณ์ในนี้แล้วกันนะ
สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ
- ถามตัวเองก่อนว่าจะไปเรียนอะไร
เรียนภาษา/แลกเปลี่ยน/เข้ามหาวิทยาลัย เรียน ป.ตรี
2. ถามตัวเองอีกครั้งว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้าง
เช่น จะไปอยู่กับญาติคนนี้ ต้องไปอยู่เมืองนี้, ค่าใช้จ่ายต้องอยู่ในวงเงินเท่านี้ๆ, อยากเรียนสาขานี้
หลังจากนั้น เมื่อได้คำตอบแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมตัวคือ
1. GPA
ต้องจบ ม.6 แต่ตอนสมัครยังไม่ต้องจบก็ได้นะ
(ฉะนั้นน้องม.5 ยังสมัครไม่ได้นะคะ ใช้เวลานี้เตรียมตัวให้พร้อมก่อน)
สมัครประมาณ ม.6 เทอม 2 ตามโรงเรียนเรียนไทย
ส่วนถ้าเป็นเด็กอินเตอร์ก่อนอยู่เทอม 1 เนอะ
ทำ GPA ให้ดีๆ แล้วจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
2. SAT
ส่วนมากจะใช้ จริงๆ อยู่ที่ ระดับของมหาวิทยาลัยและความยากในการเ้ข้า
บางที่ก็ใช้แค่ Toefl อย่างเดียว
พยายามทำคะแนนให้ดี เพราะมีผลมาก ทั้งการเข้า และการได้รับทุน
ถ้าระดับ ไอวี่ลีกอย่าง Harvard ,yale ก็เอาทั้ง SATI and SATII (Subject test)
3. Toefl
ถ้าจบโรงเรียนไทยอย่างเราก็ต้องใช้ โดยไม่มีข้อยกเว้น
หรืออาจมี… ซึ่งสามารถอ่านละเอียดๆ ได้ที่
สมัครเรียนมหาวิทยาลัยใน อเมริกา ต้องใช้อะไรบ้าง
ช่วงที่เตรียมตัวสอบ ก็ใช้เวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิด หาข้อมูลไปด้วยก็ได้ค่ะว่า
ตัวเราน่าจะติดมหาวิทยาลัยระดับไหน
และเมื่อคะแนนออก เราก็จะตัดมหาลัยได้ละว่า เราจะเอามหาวิทยาัลัยระดับไหน
ซึ่งคะแนน SAT เฉลี่ย ที่มหาวิทยาัลันเขารับแต่ละปี ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนหรอก
เราก็พิมพ์ชื่อมหาลัย วรรค SAT วรรค Collegel board ลงใน Google
ผลลัพธ์ก็ออกมาเพียบ
เมื่อเราจบการสอบ ได้คะแนนมาชมเรียบร้อย
เราก็จะพอรู้แล้วว่า เราจะ Apply ที่ไหนบ้าง
เพราะขั้นตอนต่อไป อยากบอกว่า เหนื่อยกว่า SAT อีก (เฮอ)
สำหรับการ List มหาลัย เราก็หาไปเรื่อยๆ
จริงๆ เคยเขียนไว้อีกแล้วแหละ ที่ วิธีเลือก มหาวิทยาลัย ใน อเมริกา ก็ลองดูนะ ว่าได้ผลไหม
ก่อนที่จะ สมัครให้ทำอย่างนี้คือ แบ่งมหาวิทยาลัยเป็น 3 ส่วนคือ
Dream – ในฝัน มีโอกาสเข้ายากมาก แต่อยากเรียนสุดๆ
Reach – พอมีลุ้น 50/50
Safe – ติดแน่ๆ (แต่ตอนสมัครเสร็จก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่าจะติด)
ซึ่งการแบ่งตรงนี้สำคัญมาก
ที่สำคัญคือสมัครเฉพาะที่ที่เราอยากไปจริงๆ
ถ้าที่ไหนไม่อยากไปก็ไม่ต้องสมัคร เพราะเสียเงิน(แพง) เสียเวลา(มาก) และเหนื่อยด้วย
หลังจากนั้นก็เข้าไปอ่านว่าแต่ละที่เขาต้องการเอกสารอะไรบ้าง เราก็ทำตามนั้น และเขียน Essay ตามนั้น
Deadline ED-EA 15-30 ตุลา/ มหาวิทยาลัยฝั่งตะวันตก 30 พ.ย/ มหาวิทยาลัยทั่วไป 15-31 ธันวา
ประกาศผล ED ต้นธันวา/ EA สิ้นเดือนมกรา / ทั่วไป กลางเดือนมีนาถึงสิ้นเดือนมีนา
นี่เป็นคร่าวๆนะคะ ต้องอ่านของแต่ละที่ดีๆ
ถ้าใครสงสัยว่า EA/ED คืออะไร
อ่านได้ที่ การสมัครมหาวิทยาลัยอเมริกาแต่ละรอบ (ตรี) 1
และ การสมัครมหาวิทยาลัยอเมริกาแต่ละรอบ 2
หลังจากส่งเอกสารเสร็จ ก็ตามเช็คคุณไปรษณีย์ว่าส่งถึงยัง
ของเรามีหายไป 2 ฉบับ ต้องส่งใหม่ ฉะนั้น อย่าไว้ใจไปรษณีย์
จงติดตามตลอดนะ
หลังจากนั้นก็รอจดหมายตอบรับให้เดินทางมาถึง แล้วก็เลือกเลยว่าจะไปที่ไหน
สมัครเรียนเมกา ถ้าสมัครเองก็ไม่ได้ยากอย่างที่ใครคิด แต่ก็ไม่ได้ง่าย
เพราะไม่ใช่แค่กรอกใบสมัคร กรอกคะแนนขบ
จริงๆ ก็มีพวกเอเจนซี่ที่รับทำนะ แต่สำหรับเราเราก็แนะนำให้สมัครเอง
คือนึกดู เด็กเมกา ทุกคนเขาก็สมัครเอง มันทำให้เราได้เรียนรู้ และรับผิดชอบมากขึ้นเยอะ
ถ้าเราให้คนอื่นทำให้หมด เข้ามหาลัย
ถ้ามีคนถาม แล้วเราไม่รู้อะไรเลยก็คงไม่ดีแน่ ใช่ไหมคะ
หลายคนอาจยังงง ว่า ควรเริ่มต้นยังไงดี เราก็ขอเล่าถึงของตัวเองแล้วกันนะ
มีนา 2011 – ตัดสินใจจะไปเรียนเมกา อยากเรียนสาขา Journalism + เตรียมตัว SAT
มิุถุนา 2011- สอบ SATI ครั้งที่ 1 + เตรียม TOEFL ต่อ+ มี Uni ในใจประมาณ 20 ที่
(หาเอาจาก Top Journalism Undergrad University in Us)
สิงหา 2011 – สอบ Toefl สิ้นเดือนก็ได้ผลละ + ตัดๆๆ Uni ที่ไม่เอาออกไป
ตุลา 2011 – สอบ SAT อีกรอบ + เลือก Uni เหลือ Final list (สมัคร 4 ที่เอง จริงๆ อยากสมัครเพิ่มอีกนะ แต่ความขี้เกียจเข้ายึดครอง) + เขียน Essay และสมัคร EA
พ.ย- ธ.ค 2011 – สมัครที่เหลือ และเครียดจนผอมลง 55+
น้ำท่วม โรงเรียนเลื่อน Recommendation ส่งไม่ทัน Deadline RD
ไปทำบุญปีใหม่ เสี่ยงเซียมซี เขาบอกว่า “ชีวิตเราเหมือนสร้างสะพาน ลำบากตอนแรก แต่ก็สำเร็จในที่สุด”
ม.ค. 2012 นั่งหวาดผวาทั้งเดือน ติด ไม่ติด ติด ไม่ติด ถามพ่อกับแม่ทุกวันว่าจะติดไหม แม่บอกว่า มันก็คงมีสักที่ที่ติดแหละ =_=
ก.พ 2012 ประกาศ EA เช้าวันที่ 1 ก.พ ติดแล้ววว และที่เหลือก็มาเรื่อยๆๆ
24 ก.พ. วันเกิดเรา เปิดคอมดู มหาวิทยาลัยอีกที่ก็ตอบรับ ^^ เป็นของขวัญที่ดีที่สุดเลย << แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปที่นี่นะ
มีนา 2012 ตัดสินใจและตัดใจว่าจะไปที่ไหน ส่ง Deposit เรียบร้อย โล่งมาก
ฉะนั้น ใครว่ามีเวลาเตรียมตัวน้อย มาดูของเรา เอาจริงๆ มีไม่ถึงปีด้วยซ้ำ แต่ต้องกล้าเสีย บางอย่างไปเลยนะ….เช่นบางวิชาที่โรงเรียน เราทิ้งเลย เพื่อให้ได้ SAT คะแนนดี ก็ไม่แนะนำ แต่มันไม่มีทางเลือก TT
ถ้าอยากขอทุนจากUแล้วสมัครเองพอจะมีโอกาสได้มั๊ยคะ เพราะว่าทางบ้านไม่มีเงินส่งแน่ๆค่ะ5555 หนูอยากไปเรียนป.ตรีที่เมกามากๆตอนนี้ก็อยู่ม.6แล้ว ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
สวัสดีค่ะ อยากไปเรียนตรีที่เมกาเหมือนเม้นบนนะคะ เเต่หนูไม่ค่อยมีพื้นฐานเท่าไหร่เลยค่ะ ยังหาuไม่เป็น ยังหาวิชาที่ตรงกับตัวเองไม่เจอค่ะ ชอบชีวะ เเต่เคมีฟิสิกนี่ตายค่ะ55555
ปล.หนูเรียนรร.รัฐบาลค่ะ อิ้งอ่อนเเอม๊ากก
มาเรียน community college ก่อนก็ได้ค่ะ
อยากไปเรียนต่อป.ตรีที่อมริกามากเลยค่ะ อยากถามว่าสมัครเองยากมั้ยคะ
แล้วค่าใช้จ่ายต่อปีนี่แพงมากมั้ย??
ปล.พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก หวังว่าจะยังเข้ามาตอบนะคะ ^^
ไม่ยากค่ะค่าใช้จ่ายประมาณ1-2ล่านบาทโดยประมาณต่อปีค่ะ(ช่วงนี้เงินบาทอ่อน/ดอลล่าแข็ง)
พี่เพรฟคะ หนูจบม.6 ปีนี้สนใจจะเรียนแพทย์ต่อที่อเมริกาต้องทำยังไงบ้างอ่ะคะ แล้วหลักสูตรของเค้าเป็นยังไงหรอ มีโอกาสเข้าได้มั้ยคะ
เราจะต้องเข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า Pre-med ก่อนค่ะ เมื่อจบ 4 ปีก็ต่อแพทย์ได้เลบ ^_^
ต้องลองหาดูค่ะ ว่ามหาวิทยาลัยไหนบ้างที่มี Pre-med เพราะไม่ได้มีทุกที่ค่ะ
มีเรื่องอยากจะถามค่ะ คือมีงบไม่เยอะ แต่อยากเรียนต่อโทเมกา เลยกะว่าจะไปเรียน Community college ก่อน ถ้าเราเรียน Community college โอกาสหางานหลังจากจบยากใหม่ค่ะ คืออยากเก็บตังเพื่อเรียนโทหรือหาโอกาศขอทุน มันจะยากมากไหมค่ะ รู้สึกลังเลกับชีวิตมากค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นวิศวะอยู่บริษัทของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ค่อนข้างมั่นคง แต่อยากไปเรียนต่อ แต่กลัวกับการตัดสินใจ กลัวว่าจะกลายเป็นทิ้งสิ้งที่ดีอยู่แล้ว(แต่ไม่ได้ชอบ) แล้วสุดท้ายจะไม่เหลืออะไรเลย ไม่รู้จะปรึกษาใคร
หมายถึงตอนนี้จบตรีแล้วทำงานที่บ.ญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ?? แล้วอยากเรียนต่อโทที่เมกา
Community college จริงๆ มีถึงแค่อนุปริญญาเท่านั้นค่ะ ถ้าจะต่อโทต้องเป็น College หรือ University ถ้าจบมหาวิทยาลัยดีๆ โอกาสหางานก็มากขึ้นตามค่ะ
จริงๆ ลองปรึกษาบริษัทก่อนก็ได้นะคะ ว่าให้ลางานเพื่อเรียนต่อได้ไหม เพราะบางที่เขาก็อนุญาตค่ะ
สู้ๆ
มีเรื่องอยากจะปรึกษาคะ พอดีตอนนี้เรียนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอ่ะคะ แล้วได้ลงเรียนกศนไปด้วยอ่ะ คาดว่าน่าจะจบเดือนกรกฎาคม อ่ะคะ แล้วอยากไปศึกษาต่ออเมริกาเป็นcollege อ่ะคะ หนูจะต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนช่วงไหนดีคะ รบกวนช่วยทิ้งเมลไว้ให้ด้วยได้ไหมคะ l.y.qlw@I.softbank.jp
เขียนเมลผิดคะ l.y.qlw@i.softbank.jp
เมลล์เรา alittleparfait@hotmail.com ค่ะ
เรื่องเสี่ยงบางอย่างเราก็เป็น
ตอนนี้เรียนศึกษาญี่ปุ่นใช่มะ
คืออันที่จริงเราไม่ได้อยากเป็นครูเลยซักนิด
แต่ที่บ้านไม่ให้เรียนเอกชน แล้วอีกอย่าง ดันติด มข (มหาลัยมีชื่อ)
ส่วนมหาลัยที่เราติดมนุดญี่ปุ่น ชื่อเสียงไม่เท่า มข สุดท้ายก็ต้องเลือกที่ชื่อเสียงมหาลัย
พอมามหาลัย เราก็ไม่ได้ชอบที่จะเรียน
ทำให้เราเรียนแต่วิชาพวกภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น จนเราคิดว่า เราสามารถสอนพวกญี่ปุ่นที่เรียน ๆ มาได้ แต่พวกวิชาครู เราทิ้งเลยนะ
เราไม่อ่านหนังสือพวกวิชาครูเลย อ่านแต่ญี่ปุ่น จนแทบจะท่องหนังสือได้อ่ะ
แต่ของเค้ากะของ จขบ คนละกรณีกัน
แฮะ ๆ
^_^