จำ จำ จำยังไงให้แม่น

หลายคนคงกำลังมีปัญหากับความจำใช่ไหมคะ เรียนหนังสือก็คือการท่อง ถึงแม้เขาจะพูดกันหรูๆว่า การเรียนคือต้องเข้าใจ แต่ถ้าข้อสอบประเทศไทย ยังออกมาเป็นปี พ.ศ. (เช่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นปีใด/ นายคนนี้ชื่ออะไร) ก็ยังต้องใช้ความจำอยู่ดี

เคยคุยกับเด็กเมกาคนนึง เราก็บอกว่า วันนี้คุยแค่นี้ก่อน ต้องรีบไปอ่านหนังสือเตรียมสอบประวัติศาสตร์ และต้องจำให้ได้ด้วย

เขาก็ตอบกลับมาทันทีว่า History is not about memorizing it’s what you should understand it.

เราก็แบบ อืมมม จะเข้าใจยังไงดี ถ้าข้อสอบที่โรงเรียนยังออกมาเป็นปี พ.ศ.แบบนี้……อาเมน

มา เลิกนินทาข้อสอบ แล้วมาหาวิธีจำกันดีกว่า

เห็นเราบ่นๆ จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรมากกับการจำหรอกค่ะ เคยมีพี่คนหนึ่งเขาบอกว่า ถ้าเราเรียนหนังสือแล้วไม่จำอะไรเลย เราก็จะไมีมีเรื่องอะไรที่จะไปประยุกต์ต่อได้ เหมือนคนเรียนเคมีจะคิดสูตรเคมีได้ยังไงถ้าไม่จำตารางธาตุ (เพราะคงไม่มีใครเข้าใจตารางธาตุได้) หรืออย่าง เรียนภาษา จะเรียนได้ไงถ้าไม่จำตัวอักษร จริงไหม

งั้นเรามาหาวิธีจำกันดีกว่า

** จริงๆ เรื่องจำเคยเขียนไปแล้วใน ท่องหนังสือให้มีความสุข ซึ่งเนื้อหาค่อนข้างดี (ไม่ได้โม้นะ) โพสนี้ถือว่ามาเพิ่มเติมแล้วกันนะ สำหรับคนที่อยากหาวิธีท่องศัพท์เราก็มีให้แล้วเหมือนกันที่ เทคนิกการท่องศัพท์จากรุ่นพี่ ฮาร์วาร์ด

(บอกแล้วว่าบล็อกนี้มีทุกอย่าง ถ้าคุณหาเจอ….ไม่หลงตัวเองเลยยย55+)

อย่างแรก

เราต้องเตรียมพร้อมตัวเองกันก่อน คือ กิน นอน ออกกำลัง 3 อันนี้คือองค์ประกอบที่สำคัญ

อาหาร

เราเรียนกันมาเยอะ แต่รู้นะว่าไม่ค่อยทำตามหรอก เรื่องอาหารมัน เราไม่ค่อยรู้ เพราะส่วนตัวไม่ทานมัน แต่ชอบทานของหวานมากถึงมากที่สุดใน 3 โลก ก็เลยรู้ดี อยากบอกว่า การทานของหวาน (ขนม กาแฟ โกโก้ รวมหมด) ดี นะ เพราะน้ำตาลทำให้ตื่นตัว แต่ถ้าน้ำตาลมากเกินไป จำทำให้แอททีฟมาก

แต่ะพอเวลาที่น้ำตาลดร็อป จะเร็วมาก เพราะของหวานๆ เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ก็จะหิวอีก กินอีก ง่วงด้วย (อ้วนด้วย) ไม่ดีเลย อย่ากินของหวานเยอะนะ

(แต่เราก็ทานตลอด มันติดไม่ดีเลย)

อาหารที่แนะนำก็คือกับข้าวทั่วไปๆ ที่เขาบอกว่ากินนู่นนี่แล้วบำรุงสมองก็จริงแหละ แต่เราเองก็ไม่ทำตามเท่าไหร่หรอก มีประโยคนึงทีีแม่จะย้ำบ่อยมากคือ อาหารทุกอย่างมีประโยชน์ แต่ถ้ากินซ้ำ กินทุกวัน กินบ่อยๆ ก็มีโทษทั้งนั้น

ถ้าอยากมีแรงอ่านหนังสือนานๆ เราแนะนำให้ทานอาหารเกาหลี ไม่รู้คนอื่นเป็นไหมแต่เวลาเรากิน จะรู้สึกมีแรงขึ้นมาก (พลังกิมจิ)

นอน

นอนให้พอ จะได้ไม่ง่วงเวลาอ่าน จริงๆ เราเป็นคนชอบนอนตอนบ่าย แล้วตื่นตอนดึก (มาเขียนโพสนี้ไง) แต่ก็ไม่ดีหรอก นอนเป็นเวลาดีกว่า แต่ต้องนอน ถ้าไม่นอนก็จำไม่ได้ …

ออกกำลัง

สำคัญ ตรงที่ทำให้ ร่างกายแข็งแรง สมองก็จะโปร่งมากกก อ่านเยอะแล้วก็จำได้เยอะ

มีร่างกายพร้อมแล้วก็ลุย!!

แต่ก่อนที่จะเริ่มท่องหนังสือ เราต้องไม่เครียด โกรธใครมา ทะเลาะกับใครมาต้องตัดทิ้งให้ได้ จริงๆ นั่งสมาธิก็ดี แต่คนเดี๋ยวนี้นั่งสมาธิกันไม่ค่อยถูก ยิ่งนั่งยิ่งฟุ้งซ่าน เดี๋ยวว่างๆ มาโพสสอนนั่งสมาธิดีกว่า (จริงๆ เรียนจากคนอื่นมาอีกที)

ต้องเป็นภาวะที่ ตื่นแต่สงบ งงไหม คือพร้อมที่จะอ่าน ไม่ง่วงจนเกินไป แล้วก็ไม่แอททีฟ จากออกไปวิ่ง อยากไปนู่นนี่ จนเกินไป

ที่สำคัญคือ ต้องทำสมองให้โล่ง พูดง่ายๆคือ ต้องไม่ีมีเรื่องคิดอยู่ในหัว ถ้ากำลังคิดวางแแผนจะไปไหน ก็จดลงในปฏิทินแล้วก็ จบ เลย ไม่ต้องคิดย้อนไปย้อนมาอีก

เพราะเวลาที่เราปล่อยให้มีเรื่องคิดอยู่ในหัว จะรู้สึกว่าเยอะ เพราะเราจะคิดวนไปวนมาก แต่พอเขียนออกมาแล้ว เฮ้ย นิดเดี่ยวเอง

ใช้ได้กับเวลาโกรธ อารมณ์ไม่ดี เหมือนกัน เราจะคิดนู่นนี่ มากมายในหัว แต่พอเขียนออกมา อ้าว แค่นี้เอง

ที่นี่ เวลาจะจำ/ท่องหนังสือ เราต้องกล่อมประสาทตัวเองก่อนว่า เรื่องที่เราอ่านน่าสนใจมากกก พยายามใส่ความรู้สึกลงไป การจดโน้ตที่ดี เขาถึงบอกว่าควรจดแบบ 80/20 คือ 80 เป็นเนื้อหาส่วน 20 คือความรู้สึกเราลงไป

เช่นเนื้อหาคือ คนชื่อนี้ เป็นคนคิดเรื่องอะตอมขึ้นมา เราอาจเขียนต่อว่า หมอนี่นี่เอง ทำให้ฉันต้องมานั่งท่องเรื่องนี้ ซึ่งวิธีนี้ เราอาจวาดภาพ/เขียน หรือวิธีไหนก็ได้

วิธีการท่องที่ดีที่สุด คือ การเชื่อมกับของเก่า

โดยเราต้องหาความสัมพันธ์ให้ได้ เหมือนคนที่เริ่มต้นเรียนทำข้าวผัด กับคนที่หุงข้าวกับผัดผักเป็นแล้ว เพื่อนๆ คิดว่าคนไหนจะเป็นเร็วกว่ากัน

ซึ่งตรงนี้จะขึ้นอยู่กับตัวของเราแต่ละคนละ ว่าใครมีความรู้เดิมมากกว่ากัน ก็จะได้เปรียบ แต่ถ้าเรารีบเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ก็ไม่สายจริงไหมคะ และยิ่งถ้าเราหาวิธีเชื่อมเรื่องนั้นกับตัวเราได้ จะดีที่สุดค่ะ

 

One thought on “จำ จำ จำยังไงให้แม่น

  1. ในการท่องหนังสือ ถ้ามีใจรัก ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน ^^

Comments are closed.

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑