(แนะนำ) University of Washington มหาวิทยาลัยแห่งความหลากหลาย

หยุดอัพมหาวิทยาลัยตระกูลไอวี่ลีก(ที่หลายคนคงรู้สึกว่า…ชั้นเข้าไม่ได้TT) มาเป็นมหาวิทยาลัยที่ระดับรองๆลงมาหน่อย แต่เข้าง่ายขึ้น ที่สำคัญคือชื่อเสียงก็ดีใช้ได้เลย

นั่นก็คือ University of Washington ซึ่งเป็นอะไรที่มีหลายคนจำสลับกันบ่อยมาก กับ Washington University (at St. Louis)  ถึงชื่อจะคล้ายๆกัน แต่อยู่กันคนละที่เลย อันแรกอยู่รัฐ Washington (ไม่ใช่ DC – เมืองหลวงนะคะ) ส่วนอีกที่อยู่ Missouri ตรงกลางประเทศนู่น เข้ายากกว่ามว้ากกก

สำหรับมหาลัยในวันนี้ ตัวย่อของเขาคือ UW เราก็ขอใช้ชื่อนี้ละกัน…ชื่อเต็มยาวเกิน เป็นมหาวิทยาลัยรัฐค่ะ….แต่เราต่างชาติ ก็จ่ายแพงเหมือนเดิม..

คำขวัญของเขาคือ

Lux sit แปลว่า Let there be light สีประจำมหาวิทยาลัยคือม่วงทอง สัตว์ประจำมหาวิทยาลัยคือ Huskies น่ารักเชียวแหละ

มหาวิทยาลัยนี้ก็เก่าเหมือนกัน อายุ ประมาณ 100 กว่าปี ตั้งอยู่ในเมือง Seattle เมืองหลวงของรัฐ Washinton อากาศก็อารมณ์แบบอังกฤษ ฝนตกทั้งวัน ใกล้ทะเล ไม่หนาวมาก (แต่ก็หนาวนะคะ) มีปลาแซลมอนเยอะเพราะเป็นกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน ที่สำคัญมีคนต่างชาติเยอะมาก ชาติไหน…เอเชียค่ะ

คนเกาหลี/จีน/ญี่ปุ่น เยอะมาก ถึงขนาดมีโรงเรียนสำหรับเด็กเกาหลีโดยเฉพาะเลยนะคะ สำหรับเปอร์เซนต์นักเรียนต่างชาติคือ 10 เปอร์เซนต์ แต่เวลาดูรูปถ่ายนักศึกษา เอเชียครึ่งๆกับฝรั่งเลย (บางทีเยอะกว่าฝรั่งอีก) ดูไปดูมาสงสัย นี่อยู่เมกาหรืออยู่เอเชียกันแน่……คนไทยก็ไปเยอะ แค่ปริญญาตรี ปีนึงก็รับคนไทยเกือบ 10 คน (หรือเกินด้วยมั้ง)

ทำไมถึงหลากหลาย

หลากหลายทุกอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่นักเรียน ต่างชาติเยอะมาก เอเชียก็เยอะ…วิชาที่ให้เลือกก็เยอะมาก (เขามีนักเรียนเยอะ ก็เลยมีวิชาเยอะตาม) กิจกรรม ชมรม กลุ่มนักเรียน (Student Organization) เยอะมาก ใครชอบเล่นกีฬาก็เพียบ Diversity สุดๆเลย

(แต่ตอนสมัครต้องเขียน Essay เกี่ยวกับ Diversity ด้วย เขียนยากสุดๆเหมือนกัน เริ่มเขียนเป็นอันแรกๆ เสร็จอันสุดท้ายเลย…..)

ที่แปลกคือที่นี่เขาเรียนกันเป็น Quarter ปีนึงมี 4 เทอม เรียนก็เทอมนึงสั้นๆ แล้วก็หยุด(สั้นๆ) แล้วก็เปิดเทอมต่อ ใครที่อยากจบภายใน 3 ปี 3 ปีครึ่ง เรียนที่นี่ก็จบได้เร็วแน่นอน…..(หมายถึงต้องลงซัมเมอร์นะ)

สำหรับ Ranking จริงๆ เขาเคยอยู่สูงกว่านี้นะ ปีนี้ร่วงลงมาอยู่ที่ 46 ของเมกา ก็ถือว่าไม่ได้แย่….อยู่ Top 50 ก็สวยละ

ต้นเชอรี่…..สวยเว่อร์

ส่วนสาขา Top 5 ที่คนเขาเลือกเรียนกันมากๆก็คือ

1.Social Sciences คณะพวกสายศิลป์นั่นเอง เช่น รัฐศาสตร์ ภาษา มีภาษาญี่ปุ่น/เกาหลีด้วยนะ

2.Business, Management, Marketing ธุรกิจนั่นเอง

3.Biological and Biomedical Sciences ชีวะ เกี่ยวกับแพทย์ศาสตร์ เหมือนมีคณะแพทย์ด้วยนะ

4.Visual and Performing Arts

5.Engineering

คณะที่ดังๆ ของที่นี่ก็เป็นพวก วิทยาศาสตร์ ใครอยากเรียนวิทย์บริสุทธิ์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ) ที่นี่ก็ดัง เห็นวิชาเรียนแล้ว….ไม่รู้เรื่อง55+

Admission

สำหรับป.ตรี ใช้ Toefl กับเรียงความค่ะ ถ้ามี SAT ส่งไปด้วยก็ดี…..ไม่ต้องใช้จดหมายรับรองของอาจารย์ (เย้) ซึ่งคะแนนก็ไม่ได้เอาสูงมาก…… เอาแค่ 76 คะแนนเอง แต่ถ้าให้ชัวร์ก็ 90 อัพ ไปถึงจะได้ไม่ต้องโดนจับสอบ

แต่ถ้าไม่ถึง เขาก็มีสถานบันสอนภาษา…ฉะนั้นชิลๆ

ส่วนใครที่จะสมัครปริญญาตรี ต้องรีบหน่อยนะคะ เพราะหมดเขตสิ้นเดือนพฤศจิกายน

สำหรับการแจ้งผลสอบเป็นอะไรที่ลุ้นมาก คือมหาวิทยาลัยอื่นนิยมแจ้งทางเน็ต คลิกเข้าไปดูแล้วก็รู้ว่าเราติดไม่ติด (ถ้าเขาขึ้นหัวจดหมายคำแรกว่า Congratulation ก็คือเราติด แต่ถ้าบรรยายยืดยาว อารมณ์แบบขอบคุณทีสมัคร คุณเป็นคนเก่งมาก มีศักยภาพแต่เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่สามารถรับคุณเข้าได้บลาๆ อันนี้คือไม่ติด…..บรรยายมายาวเพื่อ??)

แต่สำหรับยูนี้ไม่ เธอส่งแจ้งเป็นจดหมาย ขึ้นหน้าเว็บว่าขณะนี้ส่งจดหมายไปครบแล้ว รอรับกันให้ดี….ลุ้นมาก พวกเด็กเมกันก็อารมณ์นั่งเฝ้าตู้ไปรษณีย์กันทั้งวัน แล้วไม่ใช่แค่นั้น ซองจดหมายของคนตอบรับกับปฏิเสธไม่เหมือนกัน คนตอบรับจะได้เป็นซองสีทอง แต่คนถูกปฏิเสธจะได้ซองสีขาว

เขาบอกว่าไม่อยากให้เด็กตื่นเต้นจนเกินไปตอนเปิดซอง แต่เด็กจะหัวใจวายตั้งแต่ได้รับจดหมายเอา55+

สำหรับเด็กต่างชาติ เขาจะมีเมลล์มาบอกก่อน ว่าได้หรือไม่ (สงสัยกลัวจดหมายหาย) เราก็เลยไม่ได้ลุ้นแบบนั้น…แต่ก็เชื่อว่าทุกคนก็ตื่นเต้นที่เห็นจดหมายซองสีทอง(เด่นมาก จากกองจดหมาย) มาถึงที่บ้าน

โรงอาหาร…

ชีวิตการเรียน

แคมปัสสวยและใหญ่มาก มีกิจกรรมเยอะมากๆ อาหารในหอน่ากิน (คือเข้าไปส่องมาแล้วนั่นเอง) คลาสเรียนจะใหญ่หน่อยตาม Style มหาวิทยาลัยรัฐ คลาสส่วนมากจะมีนักเรียนประมาณ 20-49 คน

ส่วนกีฬามหาวิทยาลัยนี้ดัง ฉะนั้นเวลาเขียนใบสมัครก็อย่าลืมเขียนเกี่ยวกับกีฬาลงไปด้วยนะ กีฬาที่ดังๆ ก็เกือบทุกอย่าง เคยเห็นแข่งเล่นไอซ์ ฮอกกี้กับ UBC ของแคนาดาด้วย…..ที่นี่มีลานสเก็ตใหญ่เลยแหละ

ห้องสมุด..เห็นแล้วไม่กล้านั่งคุยเลย ดูขลังมาก

ค่าเทอม

ปีนึงประมาณ 44000 เหรียญ (กินอยู่+ค่าเทอม+หนังสือ) ซึ่งเราสามารถทำงานได้ค่ะ……แต่มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีทุนให้ันักเรียนต่างชาตินะ…เขาเขียนแปะไว้หน้ามหาวิทยาลัยเลย

เว็บมหาวิทยาลัย http://www.washington.edu/

Advertisement

6 thoughts on “(แนะนำ) University of Washington มหาวิทยาลัยแห่งความหลากหลาย

  1. เคยไปเรียนภาษาที่ยูดับมาครับ น้องๆส่วนใหญ่ที่สนิทก็ไปที่ได้ ถือว่าติดอันดับคุณภาพ top 5 สถาบันภาษาที่ดีที่สุดในอเมริกานะครับ ตอนนี้มีตัวแทนที่ดำเนินการสมัครและมีเครือข่ายพี่ๆที่ไปแล้ว

    ชื่อ ทอร์ช เอ็ดดูเคชั่น สามารถถามข้อมูลรายละเอียดได้ที่ http://www.torcheducation.com/?p=378

    (USA) University of Washington at Seattle โดยตัวแทนอย่างเป็นทางการ Torch education @ Siripinyo Building, BTS พญาไท

  2. พี่ค่ะแล้วหอพักล่ะค่ะเป็นแบบไหนค่ะ

    1. มีทั้ง on/off campus จ้า
      ลองเข้าไปดูในเว็บมหาลัยนะคะ

      1. แอดมิชชั่นยังเหมือนเดิมอยู่ไหมคะ ปีหน้าตั้งใจจะสอบเข้าที่นี่ ถ้าเป็นเด็กต่างชาติแบบเราเวลาสอบแอดเราส่งเอกสารไปหรอคะ พอรู้มั้ยเอ่ย

      2. เหมือนเดิมค่ะ ลองดู timeline เวลาดีๆ นะคะ รู้สึกว่าของ freshman จะ deadline 30 nov ค่ะ
        สมัคร Online แล้วก็ส่งเอกสารที่เขาต้องการไปค่ะ 🙂

Comments are closed.

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑

%d bloggers like this: