การทำ Portfolio 2

 

เป็นเรื่องที่ค้างมานานที่สุด …. ปีนึงแล้ว ถึงคิดได้ว่าควรเขียนสักที บทนี้ที่จะมาต่อก็คือ การทำ Portfolio ต้องทำอะไร มีอะไรอยู่ข้างในบ้าง ฯลฯ

โพสเก่า การทำ Portfolio 1 สำหรับไกด์ไลน์ให้ว่า พอร์ตควรเป็นแนวไหว

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าพอร์ตฯ ไม่ใช่ที่รวบรวมเกียรติบัตร…อันนี้ครูแนะแนวบอกมา
มันก็ไม่ได้ว่าห้ามมีใบประกาศอยู่ข้างใน แต่ว่ามันต้องไม่ใช่มีแค่ใบประกาศ ต้องมีอย่างอื่นด้วย

พอร์ตโฟลิโอ ถ้าให้คำนิยามก็คือ การทำหนังสือเล็กๆ เล่มนึงที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเรา
โดยเลือกเอาแต่เรื่องที่เราว่า เด็ด/ดี/เด่น และที่สำคัญคือต้องครอบคลุมทุกอย่าง
โดยเฉพาะเรื่องที่คนที่เราจะยื่นให้อยากรู้

จริงๆ ระดับ มัธยมเข้ามหาวิทยาลัย ไปค่อยได้มีโอกาศใช้พอร์ตเ่ท่าไหร่หรอก
ถ้าไม่ได้จะมีการสอบสัมภาษณ์/สอบทุน แม้แต่ส่งใบสมัครเรียนอเมริกาก็ไม่ต้องใช้ (ยกเว้นบางสาขาเน้อ)
แต่ถ้ามีสัมภาษณ์ด้วยก็ไม่แน่

แต่ถ้าใครที่อยู่ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว แนะนำให้เริ่มทำพอร์ตสะสมไว้ซะ เพราะยังไงก็ได้ใช้แน่นอน
โดยเฉพาะคนที่เรียนเกี่ยวกับศิลปะ/การเขียน/การสร้างสรรค์ ใช้เยอะมากๆ

ขอบอกไว้ก่อนว่า การทำพอร์ตไม่มีถูกผิดจะทำแบบนี้หรือแบบไหนก็ได้ ฉะนั้น เค้าแค่มาแนะเฉยๆ นะ

ซึ่งส่วนประกอบหลักๆของพอร์ตก็จะมีดังนี้

1. หน้าปก

มีชื่อเรา อย่าลืม ส่วนที่เหลือก็ครีเอทกันได้เต็มที่
เพราะพอร์ตโฟลิโอ เหมือนเป็นสมุดเล่มนึงที่เราต้องบอกเล่าเรื่องราวของเราออกมา
ฉะนั้น ก็เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ ใครอยากใส่รูปตัวเองด้วยก็ได้.
…… ถ้าใครไม่เก่งเรื่องการตกแต่ง ก็เน้นเรียบๆ ไว้ก็ได้

2.ประวัติส่วนตัว

ชื่อ วันเกิด โทรศัพท์ อีเมลล์ ที่อยู่ 5 อันนี้สำคัญมาก
ส่วนประวัติครอบครัวต้องใส่ไหม….ถ้ายังอยู่มัธยม เราว่าใส่ลงไปก็ดี เพราะคนสัมภาษณ์เขาน่าจะอยากรู้
แต่ถ้าอยู่มหาวิทยาลัยอาจไม่จำเป็น

แล้วก็อย่าลืมใส่พวก ความสนใจ เช่น สนใจในเรื่องการอ่าน/การทำอาหาร/การท่องเที่ยวอะไรก็ได้ เขียนไป
แล้วอีกอย่างหนึ่งที่คาดไม่ได้ ก็คือ ความสามารถพิเศษ ภาษา/คอมพิวเตอร์(ใช้โปรแกรมอะไรเป็นบ้าง)
ใส่ลงไปเลย

ส่วนที่เหลือก็อาจเป็นนิสัยส่วนตัว / งานอดิเรก / ความฝัน เป็นต้น

3. การศึกษา

เราใส่ตั้งแต่อนุบาล….เพราะเรียนมา 15 ปี เคยเรียนแค่ 3 โรงเรียนเอง
ใครที่เรียนพวกกิฟต์/ภาคภาษาอังกฤษ/ โครงการพิเศษ อย่าลืมโม้ลงไป เกรดด้วยก็ดี
…..หรือใครเคยได้โล่เรียนดี/คะแนนสูงก็ใส่ลงไปเนอะ

ทีนี้หลายคนคงสงสัยว่าถ้าเราเคยเรียนโครงการพวก วิทย์-คณิต
แต่ทุน/คณะ/งาน ที่เรายื่นเป็นคนละสายเลย เราควรใส่ลงไปไหม คำตอบคือ “ใส่”
ใส่ไปเลยไม่ต้องกลัว เขาไม่ว่าอะไรเราหรอก แต่ถ้าเขาสงสัยเราก็แค่เตรียมต้องตอบให้ได้ว่า
“ทำไมถึงเปลี่ยนมาชอบงานทางศิลป์”

4.กิจกรรมที่เคยทำ

กิจกรรมเช่น รับน้อง กีฬาสี งานอาสาสมัครต่างๆ หรือใครเคยฝึกงานก็ใส่ลงไปเลย
โดยอาจแบ่งตามหัวข้อต่างๆ ก็ได้
ของเรา เราแบ่งเป็น Volunteer/ Art (ดนตรี. ศิลปะ. เต้น. รำ)/  Leadership / Work Experience

ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็ควรมี ชื่อกิจกรรม ชื่อตำแหน่งที่เราทำ
(พยายามหาคำที่ตรงกับงานที่เราทำมากที่สุด เพราะที่ไทยเวลาเราทำงาน ส่วนมากมันไม่มีชื่อตำแหน่ง)
สถานที่ ระยะเวลา(ใส่เป็นเลขปีก็ได้) และ สิ่งที่เราทำ (ในงานนั้นเราทำอะไรบ้าง
…บรรยายไป คล้ายๆ กับการเขียนใน Resume
ภาพประกอบ ไม่ถึงกับต้องมี แต่ถ้ามีก็จะทำให้ดูหนักแน่น(เป็นหลักฐาน) ว่าฉันทำจริงๆ
….. และเราอาจเขียนความรู้สึกลงไปด้วยก็ได้

ตัวอย่างของเรา อันนี้เป็นงานอาสาสมัคร ไปช่วยสอนหนังสือเด็กที่โรงเรียนวัดประทุมฯ

English Instructor , H.E.L.P Project at Wat Pathum Wanaram School, Bangkok, 2011
– Design lessons for grade 7 students, manage the class, teach, review, evaluate and report the year’s progress summary

เป็นต้น…

ใครที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมมาเขียน ก็ไปหากิจกรรมมาทำ ปีที่แล้วนี่พอสอบเสร็จ
เราก็ล่ากิจกรรมแทบตาย…..ตอนมาสมัครเมกา

5. ผลงาน

ใครเคยได้รับเหรียญนู่นนั่นนี่ แข่งนั่นแข่งนี่ ใครอยากเอาเกียรติบัตรลงไปด้วยก็ได้
แต่มันจะมีข้อจำกัดคือ ถ้าเอาลงน้อย เราก็จะไม่ได้โชว์สิ่งที่เรามี
แต่ถ้าเราลงมาก กรรมการเขาก็จะอ่านแต่ละอันน้อย จดจ่อกับแต่ละอันน้อยลง
…. ต้องตัดสินใจ

แต่เนื่องจากเราไม่มี =_= ตั้งแต่อยู่มัธยมแทบไม่เคยได้รับเกียรติบัตรอะไรเลย
แต่ของเราจะมีงานที่เคยตีพิมพ์ ก็ใส่ๆ ลงไปแทน
ใครทำพอร์ตภาษาอังกฤษแต่ดันงานของเราเป็นภาษาไทยก็ใส่ลงไปได้นะ

พอร์ตของเราก็เป็นภาษาอังกฤษ แต่งานเขียนเป็นภาษาไทย ก็ใส่ๆลงไป
แถมอธิบายให้เป็นภาษาอังกฤษข้างล่างด้วย

อ้อ อย่าลืมบอกนะ ว่าผลงานของเรา ทำเมื่อไหร่/ที่ไหน/จากใคร สำคัญมากๆ

ส่วนขนาดพอร์ตต้องหนาแค่ไหน….ของเราบ๊างบาง…. อยากให้หนาเหมือนกัน
หวังว่าจะได้เพิ่มเข้าไปเร็วๆ นี้

ตัวอย่างของเรา…ไม่ชัด เพราะถ่ายจากมือถือ

ทำด้วยมือ Vs ทำด้วยคอมพ์

อันนี้แล้วแต่เราเลย ให้ถนัดวาดรูป ตกแต่งด้วยมือ ก็ได้ หรือถ้าใช้คอมพ์ก็ตกแต่งให้เต็มที่ โปรแกรมก็แล้วแต่ Word / photoshop/ Indesign เราใช้อินดีไซน์ ง่ายดี (แต่ถ้าใครไม่เคยใช้อาจยากอยู่) เคยได้ยินว่าพวกได้ทุนคิงหลายคนก็วาดกันเอง..

ใช้แฟ้ม Vs เย็บเล่ม

แล้วแต่อีกเช่นกัน แต่แนะนำถ้าเย็บก็ให้เย็บด้วยกระดูกงู เผื่อมีอะไรเพิ่ม/เอาออกจะได้ทำได้