อีกหนึ่งคำถาม ที่มีหลายคนถามเยอะมากก็คือ TOEFL กับ Ielts สอบอันไหนดี แล้วก็อันไหนง่าย/ยากกว่ากัน
สิ่งที่อยากให้ถามตัวเองก่อนก็คือ เราจะสอบไปทำไม (แน่นอนว่าเพื่อสมัครมหาวิทยาลัย) แล้วเราจะสมัครมหาวิทยาลัยที่ไหน เมกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์
ถ้าจะสมัครเมกาจะให้แนะนำกว้างๆ ก็คือสอบโทเฟล…ส่วนที่เหลือก็ไอเอล แต่ก็ไม่จำเป็นซะทีเดียว เราควรดูด้วยว่ามหาวิทยาลัยที่เราอยากเข้านั้น เขารับคะแนนที่เท่าไหร่ บางที่มหาวิทยาลัยเราเองแหละ (อยู่เมกานะ เผื่อใครยังไม่รู้) เอา TOEFL แค่ 79-83 (จำไม่ได้ว่าขั้นต่ำเท่าไหร่) แต่เอา ไอเอลขั้นต่ำตั้ง 7…..ถ้าเป็นอย่างนี้สอบโทเฟลดีกว่าเยอะ
แต่บางมหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่ ถ้ามีเวลา+เงินมากพอ จริงๆ อยากแนะนำให้สอบทั้ง 2 อย่าง (สอบแบบเตรียมตัวนะ ไม่ใช่สมัครสอบเฉยๆ เสียดายเงิน)
แล้วเวลาดูว่ามหาวิทยาลัยไหนรับที่คะแนนเท่าไหร่ ก็อย่างที่เคยบอกไปว่าให้ดูดีๆ เพราะบางคณะมหาวิทยาลัยเดียวกันก็รับไม่เท่ากัน
มาดูโทเฟลกันก่อนดีกว่า โทเฟลที่สอบๆกันส่วนมากเป็น IBT ไม่รู้ว่า Paper base ยังเหลืออยู่อีกหรือเปล่า แต่ในไทยมีแค่ IBT คือสอบกับคอมพ์ คะแนนเต็ม 120 โดยมี 4 ส่วน เต็มพาร์ทละ 30 คะแนนได้แก่
1. Reading
ก็มี บทความมาให้ ข้อเสียคืออ่านในคอมพ์ (ใครชอบไฮไลท์ขีดเส้นใต้ก็ซวยไป…เราเอง) แล้ว็มีคำถาม คำตอบเป็นตัวเลือก ตอบผิดไม่หักคะแนนเหมือน SAT เราอาจได้ทำ 3 หรือ 5 เรื่อง แล้วแต่คอมพ์มันกำหนด (ถ้าทำ reading น้อยก็ต้องทำการฟังมาก) โดยถ้าเราได้ทำ 5 เรื่อง มันจะมี 2 เรื่องที่ไม่ได้คิดคะแนน (แต่เราไม่รู้)
การอ่านก็ต้องอ่านให้เร็ว ตามเวลาที่เขาให้ ซึ่งแนวคำถามจะต่างกันกับไอเอลนะ ต้องลองฝึกทำเองแล้วจะรู้
2. Listening
มี 6 หรือ 9 เรื่อง โดย 1/3 จะเป็นการฟังบทสนทนา ส่วนมากเกี่ยวกับชีวิตเด็กมหาวิทยาลัย….อยู่หอ ไปห้องสมุด ไปเข้าเรียน ไปกินข้าว และที่เหลือคือ 2/3 จะเป็นการฟังเลคเชอร์ มีทุกวิชา ตั้งแต่วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ สังคม แล้วแต่จะเจอเรื่องไหน
คำถามเป็นตัวเลือกแล้วก็ตอบ
พักเบรคสักพัก
3. Speaking
เป็นพาร์ทที่นรกที่สุดสำหรับเรา (และอีกหลายคน) มี 2 แบบคือ
- Independent speaking task (2 เรื่อง)
- Integrated speaking task (4 เรื่อง)
โดย Independent speaking จะเป็นแนวชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยยาก เช่นชอบอะไร(บอกเหตุผลด้วย) เป็นเรื่องเกี่ยวกะเรา ส่วน Integrated speaking task 2 เรื่องแรก จะมีบทความให้อ่าน บทสนทนาให้ฟัง แล้วก็ตอบคำถาม
อีก 2 ข้อที่เหลือคือมีบทพูดให้ฟัง แล้วก็ให้เราสรุป มันยากตรงที่ไม่ได้วัดแค่พูด แต่วัดการฟัง การจับใจความ การเรียงลำดับความคิดด้วย
4. Writing
พาร์ทสุดท้ายละ จะได้กลับบ้านแล้ว ส่วนแรกจะเป็น Integrated Writing ก็คือได้อ่าน Passage ก่อน 1 เรื่อง แล้วก็ฟัง lecture แต่จะมีจุดที่เหมือนและต่างกับบทความที่เราอ่าน แล้วเราก็ต้องตอบคำถาม (เขียนเป็น Essay นะ)
มันยากตรงที่ถ้าเราจับไอเดียไม่ได้ อ่านไม่เข้าใจหรือฟังไม่ออก (อย่างใดอย่างหนึ่งหรือ 2 อย่าง) เราก็จะทำไม่ได้เลย
ส่วน Independent writing ก็จะง่ายกว่า เพราะถามความคิดเรา แต่ถ้าได้เรื่องยากก็ซวยไป ของเราได้อะไรจำไม่ได้ แต่ที่รู้ๆให้เขียนเป็นภาษาไทยยังยากเลย
ส่วนหนังสือ เตรียมสอบ เคย Review ไว้แล้วใน (แนะนำ) หนังสือ Toefl ลองหาอ่านกันได้นะ