Intern day 7 My first event

พักนี้เริ่มอัพวันควบๆ กันเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลา+ แรงเท่าไหร่ แค่ฝึกงานกับญี่ปุ่นก็หมดพลังแล้วจริงๆ (เหลืออีกนิดเอาไว้กรี๊ดจุงกิ55+)

DSCN0067

6/03/2013

วันนี้หลังจากตอนเช้าถอดเทปที่ค้างเอาไว้เสร็จ พอรู้ว่าช่วงบ่ายมีสัมภาษณ์ดารา (ท้ังที่ไม่รู้ว่าใคร) เราก็ขอพี่ไปนั่งฟังด้วยทันที

คนที่เราสัมภาษณ์วันนี้คือ คุณ ฌอห์ณ จินดาโชติ
ซึ่งนอกจากจะหล่อแล้วอ่ะนะ ก็เป็นคนที่ตั้งใจทำงานมากๆ รอนานก็ไม่บ่นเลย (ขนาดอากาศร้อนด้วย)
พี่ผู้จัดการเขาก็น่ารักดี
เรื่องที่สัมภาษณ์คือเพื่อทำคอลัมภ์โฆษณาซึ่งเขาก็ตั้งใจทำงานมากๆ ดูเป็นคนที่มีความคิด เหมือนจะเขียนหนังสือด้วย
เห็นเขาบอกว่าตอนนี้กำลังต่อเติมบ้านเป็นห้องสมุด << อิจฉา อยากได้ห้องสมุดในบ้านมาก O_o


หลังจากนั้นก็นั่งประชุมกับพี่ๆ เรื่องกองบก. เรื่อง “ละคร”
ก็มีการคุยถึงละครในอดีตถึงปัจจุบันมากมาย ที่รู้ๆ คือตอนนี้อยากดูรักในรอยแค้นมากๆ
แล้วเราก็จะมีพูดถึงละครเก่าๆ พี่กองบก. ที่เด็กสุด (ห่างกับเราประมาณ 4 ปี) ก็หันมามองหน้าเราประมาณว่า ทันเรื่องไหนบ้าง
….ก็ไม่ทันอยู่หลายเรื่องอ่ะ (พี่ก็ประมาณว่า ไม่ทันเหมือนกัน) 55+

 

ตอนเย็นก็ได้ไปงาน Event เปิดตัว นิตยสารเล่มใหม่ที่ชื่อว่า Nylon
เป็นการออกงานครั้งแรกในฐานะสื่อมวลชน  ซึ่งเราตื่นเต้นมากๆ เมื่อสัก 6 ปีที่แล้ว สมัยที่บ้าดาราไทยแบบสุดๆ
เราก็เคยอยากได้ไปงานต่างๆ ในฐานะสื่อมวลชน ไปเซ็นชื่อตรง Media เนี่ย อยากทำมากๆ
(ตอนนั้นเรียนวิทย์นะ ฉะนั้นมันดูไกลมากๆ กับสายงานสื่อมวลชน)

แล้วเราไม่คิดว่าในที่สุด 6 ปี่ผ่านมา เราจะได้มายืนในจุดนั้นจริงๆ มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ
ถ้าเราสามารถย้อนกลับไปหาตัวเองตอนนั้น เราคงอยากกอดตัวเองตอนนั้น แล้วบอกว่าให้

“อดทน สักวันเธอก็จะได้ในสิ่งที่เธอฝัน ถ้าเธอรักมันมากพอ”

DSCN0070ที่น่าขำคือ ตรงนี้ Siam center คนละที่เดียวกันกับปีที่แล้ว

เวลาเดียวกันคือตอนเย็นๆ
ปีที่แล้ว – เรามารอจุงกิ ต้องอดทน มองจุงกิข้ามหัวสื่อเป็นร้อย (แอบอิจฉาสื่อนิดๆ ที่ได้นั่งที่สบายๆ มีของกินอร่อยๆ เห็นหน้าจุงกิชัดๆ)
ปีนี้ – เราได้กลับมาอีกครั้ง กับงานเปิดตัวนิตยสาร ในฐานะนักข่าวอย่างเต็มตัว มันทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังเดินเข้าไปใกล้ความฝันของเราเรื่อยๆ 

DSCN0069

เคยมีคนถามเราว่า ถ้าให้หาโค้ดคำที่อธิบายชีวิตเราได้ที่สุดก็คงเป็น

“เรากำลังวิ่งอยู่ แม้ว่าจะยังมองไม่เห็นเส้นชัย แต่เมื่อหันหลังกลับไป เราก็มองไม่เห็นจุดเริ่มต้นแล้ว”

เราว่ามันคือความหมายของชีวิตนะ

ใ้ห้วิ่งตรงไปข้างหน้า แม้ว่าวันนี้ เราจะยังไม่เห็นเส้นชัย หรือเส้นชัยที่เห็นมันดูเลือนลานจนเราไม่แน่ใจว่าเราจะถึงไหม
แต่ถ้าเราลองหันกลับไปมองยังจุดเริ่มต้น เราก็เดินจากมามันไกลแสนไกลแล้ว

Comments are closed.

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑

%d bloggers like this: