พักนี้มีคนถามส่งเมลล์มาถาม FB มาถามหรือแม้แต่โทรมาถาม! เยอะ เกี่ยวกับเรื่องเรียนต่อนอก วันนี้ว่าง เพราะเป็นวันแรงงาน เรากับแก๊งค์เด็กฝึกงานก็เลยหยุดยกชุด…เหลือพี่ๆ ที่ต้องทำงานปิดเล่มต่อไป << บอกแล้วว่างานนิตยสารหนักจริงนะ
วันนี้ก็เลยขอมาเขียนเล่าเท่าที่นึกได้ดีกว่า
ส่วนคำตอบจะเน้นพื้นฐานว่าเป็นอเมริกาเป็นหลักนะ…ประเทศอื่น น่าจะคล้ายๆ กัน
1. ไปเรียนนอกต้องมีเงินมากๆ
ค่อนข้างจริง แต่ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้าขนาดมหาเศรษฐี แค่เป็นคนที่มีฐานะปานกลางขึ้นไปก็คงพอไว้ (ยกเว้นได้ทุนนะ) มันขึ้นกับปัจจัยหลายอย่างด้วย เช่น เรียนระดับไหน (ถ้าป.โท ก็ถูกกว่า ป. ตรีมากกว่า ครึ่งหนึ่งเลย เพราะเรียนแค่ 2 ปี) เรียนรัฐไหน เรียนมหาวิทยาลัยอะไร หรือเรียนวิชาอะไรก็สำคัญ ถ้าเรียนพวกศิลปะ/วิทยาศาสตร์/ธุรกิจ ค่าเทอมก็มักแพงกว่าอื่นๆ เสมอ
เริ่มเก็บเงินวันนี้ ถ้าความฝันคือการไปเรียนต่อต่างประเทศนะ ^_^
แต่นอกจากเงิน สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าในการไปเรียนนอกก็คือใจและความมุ่งมั่น
ใจในที่นี้หมายถึงการเตรียมใจให้พร้อม ต้องเปิดรับกับทุกอย่าง การไปใช้ชีวิตในที่ที่วัฒนธรรมต่างกับความเคยชินเรามากๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย (โดยเฉพาะตอนแรกๆ) เราต้องเปิดใจ เพราะสิ่งที่เราเห็นเป็นเรื่องแปลกอาจเป็นความเคยชินของเขา และแน่นอนว่าสิ่งที่เราทำจนชินสุดจนเป็นเรื่องปกติ อาจกลายเป็นเรื่องแปลกสุดๆ ของเขาเหมือนกัน
ส่วนความมุ่งมั่น ถ้าเราไม่มีความตั้งใจที่จะไป(เพื่อเรียน เพื่อทำงาน เพื่อเอาประสบการณ์จริงๆ) แค่คิดว่าขอออกจากบ้านก็พอ…ก็อย่าไปเลยค่ะ มันไม่คุ้มหรอก
2. เข้าเรียนเมกายากกว่าเรียนไทย/ เรียนไทยยากกว่าเมกา
คำถามนี้มาบ่อย ซึ่งเป็นคำถามที่ตอบไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่จะเข้า มหาวิทยาลัยในเมกาก็มีตั้งแต่เข้ายากมากๆๆ จนถึงเข้าง่ายๆๆๆ
3. จะเข้ามหาวิทยาลัยเมกาต้องเน้นกิจกรรมมากๆ
ไม่ค่อยจริง จริงที่ว่าควรทำกิจกรรม แต่เรื่องเกรด เรื่องคะแนน ก็เป็นปัจจัยหลักมากเลยนะ มันจะมี 3 ส่วนที่เขาเทน้ำหนักให้มากๆ คือ เกรด คะแนนสอบ(SAT) และ Essay ซึ่งสิ่งที่เราจะเขียนใน Essay ก็คือประสบการณ์ชีวิต
ถ้าเราทำกิจกรรมมาก เราก็เหมือนมีต้นทุนเก็บไว้มาก มีเรื่องให้เขียนเยอะ ดังนั้นห้ามทิ้งเกรดเด็ดขาด
(ส่วนปัจจัยรองลงมาก็คือจดหมายของอาจารย์ และกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ทำค่ะ)
อยากบอกว่า การสมัครเมกา ทำให้เราตั้งใจเรียนในห้องเรียนมากขึ้นกว่าเดิมอีก ในขณะที่บางคนเลือกที่จะทิ้งเกรด เรากลับต้องขยันเรียน เพราะมันต้องใช่นิ << ยกเว้นม.6 เทอมสุดท้าย เราแทบไม่สนใจจริงๆ
4. ชีวิตเมืองนอกโหดร้าย…ยิ่งไปอยู่คนด้วยด้วย น่ากลัว
ไม่จริง เราว่ามันไม่ได้โหดร้ายอย่างนั้น การไปเรียนต่างประเทศ (โดยเฉพาะเมกา) เป็นสังคมที่สอนให้เรารู้จักการดูแลและรับผิดชอบตัวเองมากกว่า คนเขาจะเน้นพึ่งตัวเองก่อนมากกว่าเน้นพึ่งคนอื่น เป็นสังคมที่มีระยะห่างระหว่างคนหน่อย (ยกเว้นถ้าเป็นเพื่อนสนิทก็อีกเรื่อง) ดังนั้น มันทำให้เราโตขึ้น
จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นเพื่อนที่กลับจากแลกเปลี่ยน เด็กฝรั่ง หรือนักเรียนที่จบจากเมืองนอก ส่วนมากจะดูโตกว่าคนวัยเดียวกัน
5. เมกายิงกันตาย ก่อการร้ายก็เยอะ
เยอะจริง แต่เราไปดูเปอร์เซนต์การเกิดที่เป็นสถิติ พบว่า อัตราเท่ากับเมืองไทยเลย..แค่ประเทศเขาใหญ่กว่า คนเยอะกว่า เลยเกิดบ่อย << แต่บ้านเราก็มีข่าวอาชญากรรมทุกวันนะ .(ถ้าเราอยู่ไทยแล้วปลอดภัย ในเมกาก็แค่ระวังตัวเท่าเดิมก็ไม่มีปัญหานะ)
อย่างในอเมริกา ถ้าเราอยู่เมืองเล็กๆ ชนบทๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไร ชิลๆ แต่ถ้าอยู่เมืองใหญ่ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น ยิ่ง New york/Chicago/LA เพิ่มบอสตันเมืองเราเข้าไปด้วย ต้องระวังมากขึ้น เช่นกลางคืนก็อย่าออกไปข้างนอก เพราะพวกคนโฮมเลส จะโผล่มาเดินเยอะมาก (ไม่รู้ตอนกลางวันไปอยู่ไหนกันหมด ยังกะมนุษย์ท่อ)
ฉะนั้น โดยเฉพาะน้องๆ ผู้หญิง กลางคืนพยายามอย่าออกไปคนเดียวเลย ยิ่งเป็นเอเชียด้วย ก็จะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ
เดี๋ยวช่วงวันหยุดยาวนี้ อาจมารีวิว พันครั้งที่หวั่นไหวนะคะ ตอนนี้อ่านคร่าวๆ จบแล้ว เดี๋ยวจะอ่านอีกรอบก่อนมารีิวิวค่ะ แนะนำตรงนี้เลยว่า หนังสือของอาจารย์ดีเหมือนเดิม
You must be logged in to post a comment.