การทำ Visa F1 (อเมริกา)

 

รู้จัก F1 กันก่อน

F1 คือ วิซ่าที่ใช้ขอเข้าอเมริกา สำหรับคนที่จะไปเรียนระดับประถมถึงมหาวิทยาลัย รวมไปถึงโรงเรียนภาษา

วิธีการสมัคร Online 

คือการกรอกข้อมูลของเราและนัดวันสัมภาษณ์นั่นเอง

1. กรอก DS-160  ที่เว็บ https://ceac.state.gov/genniv/

เป็นการกรอกข้อมูลของเราที่เยอะมากๆ ตั้งแต่ข้อมูลส่วนตัว พ่อแม่ชื่ออะไร เกิดวันไหน เรียนที่ไหน ไปจนถึงการเรียนและการทำงาน ของเราเจอขอชื่อคนรู้จักที่ไม่ใช่ญาติมา 2 คน พร้อมที่อยู่และเบอร์โทร…. ต้องเตรียมเอกสารการเรียน พาสปอร์ตเล่มเก่าๆ มาให้พร้อม

พาร์ทสุดท้ายจะถามถึงประวัติอาชญากรรม ถ้าใครไม่เคยมีก็เลือก No นะ

ต้องเตรียมรูปเป็น File ขนาด 2*2 นิ้วไว้ด้วยนะ เพราะเราต้องแนบไป

  • ถ้าเขามีให้ปริี๊นต์อะไรออกมา ก็ปริี๊นต์ออกมาให้หมดนะ ปลอดภัยไว้ก่อน

2. จ่ายค่า SEVIS Fee เป็นค่าสำหรับหน่วยงานหนึ่งของเมกาใช้ดูแลเด็กต่างชาติ (เป็นนัยๆ ว่าไม่ให้พวกนี้แอบทำงาน/ อยู่ต่อนานเกิน) จ่ายเงินเสร็จก็ปริ๊นท์หลักฐานออกมาด้วยค่ะ ต้องใช้ตอนยื่นขอวีซ่า จ่ายที่เว็บนี้ https://www.fmjfee.com/i901fee/index.jsp ด้วยบัตรเครดิตประมาณ 200 เหรียญ US

คนที่ขอวีซ่านักเรียนต้องเสียค่า SEVIS

3. ซื้อพิน จ่ายค่าขอวีซ่าประมาณ 160 เหรียญต่อคน หลังจากนั้นก็จองวันสัมภาษณ์ เท่าที่สังเกตใครขอ F1 จะได้เร็วค่ะ เพราะมีคนที่ขอช่วงเดียวกันแต่ขอ B2 ต้องรอเป็นเดือน แต่ของเรา F1 รอแค่ อาทิตย์กว่าๆ ก็มีวันว่างแล้ว

เอกสารที่ต้องใช้ยื่นขอวีซ่า

  • Passport เล่มปัจจุบันและเล่มเก่าๆ ที่มีวีซ่าอเมริกา

  • I20 (มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนที่ตอบรับเราจะส่งมาให้ ของเราเป็นกระดาษ 3 แผ่น) ใช้ยื่นขอวีซ่าและยื่นตอนเ้ข้าประเทศอเมริกา

  • ใบเสร็จ จ่ายค่า SEVIS Fee ใช้ยื่นขอวีซ่าและยื่นตอนเ้ข้าประเทศอเมริกา

  • ใบเสร็จจ่ายค่าขอวีซ่า

สิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย

  • ทะเบียนบ้าน ใบเกิด ใบสมรส ใบเปลี่ยนชื่อ (เอาตัวจริงและถ่ายเอกสารด้วย) ต้องใช้สำหรับคนที่ยื่น Pin เดียวกัน….แต่พอเข้าไปข้างในของเราเขาไม่ขอเลย

  • หลักฐานการเงิน หลักฐานการทำงาน Book bank เอาไปให้หมด..แต่ของเราก็ไม่ใช้อีกเช่นกัน แต่ต้องเอาไปนะ

  • Transcribe  (แต่เราไม่ได้เอาไป)/ ใบจบการศึกษา (เราก็ไม่ได้เอาไปอีกเช่นกัน)

  • บัตรประชาชน เอาไว้แลกกระเป๋าค่ะ

วันสัมภาษณ์

  • ไปถึงสถานฑูตก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง (ไม่ต้องไปก่อนมาก เพราะยังไงก็เข้าไม่ได้อยู่ดี)

1.หน้าสถานฑูตจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยคอยเช็คชื่อ ว่าเรามาถูกรอบ ถูกเวลาไหม รวมไปถึงถ้าเราซื้อพินอันเดียวกัน (สัมภาษณ์พร้อมกัน) ต้องอยู่บ้านหลังเดียวกันและมีความสัมภาษณ์สายตรง

ขาจะขอดูพาสปอร์ตและ ใบ Confirmation DS-160 ด้วย จากนั้นก็จะเขียนบนใบคอนเฟิร์มว่าเราขอวีซ่าประเภทไหน ดูด้วยนะว่าเขาเขียนถูกไหม ของเราตอนแรกก็เขียนให้ B2 ก็ไปบอกเขาว่าหนูขอ F1 ค่ะ

2. ตรวจอาวุธ

ห้ามเอาทุกอย่างเข้า ตั้งแต่อาวุธยันแฟรชไดรฟ์ คือห้ามเอาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกทุกอย่าง หูฟังก็ไม่ได้ เขาจะให้ฝากค่ะ

3. ตรวจเอกสาร

เขาจะช่วยจัดเรียงเอกสารให้ถูกต้อง คอยเช็กว่าเราลืมเซ็นชื่อหรือเปล่า (อย่างเราลืมเซ็นที่ I20 ก็เซ็นซะให้เรียบร้อย) รวมไปถึงเขาจะจัดพาสปอร์ตของเราให้เป็นแบบที่เขาต้องการ เจ้าหน้าที่จุดนี้อารมณ์ดี จัดไปก็คุยกับเราไป (พอดีรอบที่เราขอ มีอากู๋แกรมมี่มา) พวกพี่ๆ เขาก็เลยคุยเรื่องดาราคนอื่นที่มาขอวีซ่าให้ฟัง

4. สัมภาษณ์กับคนไทย

เขาจะถามข้อมูลตามที่เรากรอกไปใน DS-160 นั่นแหละค่ะ พร้อมทั้งให้เราแสกนนิ้ว นิ้วโป้ง + 4 นิ้วชิด ทั้ง 2 ข้าง…เขาขอทรานสคริปต์กับใบจบเราด้วย << ไม่ได้เอาไป TT

5. สัมภาษณ์กับคนอเมริกัน

รอนานมาก เรารอไปเกือบ 2 ชั่วโมง แต่สัมภาษณ์แป๊บเดียวเอง ขนาด 3 คน คนสัมภาษณ์พูดไทยได้ ของเราก็ถามแค่ว่า ไปเรียนอะไร ที่ไหน สาขาอะไร พ่อแม่ทำงานอะไร (แต่ก็รู้ว่าเขาถามเล่นๆ ไม่ได้จริงจัง) แล้วเขาก็ถามพ่อเราว่าทำงานบริษัทอะไร ถามแม่ว่าสอนวิชาอะไร

ถามไปเขาก็แกะเอกสารไป สรุปเขาก็เอา I20 พาสปอร์ตเล่มปัจจุบัน (ไม่แน่ใจว่าเอาใบเสร็จ SEVIS ไปหรือเปล่า) จากนั้นก็ไปซื้อซองจ่ายเงินค่ะ

เราผ่าน แต่คนข้างๆ หลายคนก็ไม่ผ่าน เท่าที่สังเกตคือ

  • มีคนหนึ่งใช้พาสปอร์ตราชการ แต่เหมือนไปกึ่งๆประชุมที่ไม่เป็นทางการมาก ดังนั้นเขาก็เลยบอกให้ไปทำพาสปอร์ตมาใหม่

  • นักศึกษาที่เพิ่งจบยังไม่มีงานทำ บอกว่าจะไปเที่ยวประมาณ 3 เดือน

  • คนที่เคยถูกปฏิเสธวีซ่ามาแล้ว

อยากบอกว่าจริงๆ ไม่ต้องตื่นตระหนก ขอวีซ่าอเมริกาก็ไม่ได้ยากมาก สำหรับเรา เราว่าวุ่นวายน้อยกว่าตอนขอ schengen visa ที่สถานฑูตออสเตรียอีก TT อันนั้นวุ่นวายมากกก

เพิ่ม

วันนี้ไปฟังคนของสถานฑูตมาบรรยาย เขาบอกว่า คนส่วนมากที่ขอวีซ่าอเมริกา เขาจะให้ผ่าน โดยอเมริกาเป็นประเทศที่พิจารณาบุคคลโดยรวม ไม่ใช่แค่ว่ามี Book bank หรือหลักฐานการทำงานก็ผ่านเลย (ทำให้สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาใช้เวลานาน)

ดังนั้นอย่างที่บอกว่าไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาทั้งที ก็เอาเอกสารไปให้พร้อม…เอาไปเยอะเป็นดีที่สุด

Advertisement

One thought on “การทำ Visa F1 (อเมริกา)

Comments are closed.

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑

%d bloggers like this: