วันนี้เราจะมา List ของที่เราเอาไปให้ดูกันนะ เราไปเรียนปริญญาตรีที่อเมริกา อยู่ในหอพัก (ที่หมดปีต้องย้ายออก)
ก่อนที่จะแพ็คของ สิ่งที่เราต้องคิดถึงเป็นอย่างแรกก็คือ
- เราจะไปที่ไหน/อากาศที่นั่นเป็นอย่างไร/ เราจะไปอยู่นานแค่ไหน
- เราจะไปทำอะไร
- ที่นั่นกับบ้านเราของชิ้นไหนถูกกว่า
4. สายการบินให้ใช้กระเป๋าได้กี่ใบ
-
ดูให้ดีว่าเมืองที่เราไปหนาวแค่ไหน บางที่มีฝนก็อาจต้องเตรียมอุปกรณ์ไปเพิ่ม (ร่ม/เสื้อกันฝน)
2. ถ้าไปทำงานก็อาจต้องเป็นชุดสุภาพนิดนึง ยิ่งถ้าไปประชุม ใส่สูทดำ พยายามเน้นสีพื้นๆ อย่างขาว ดำ เทาเอาไว้ แต่ถ้าไป Work ก็ควรเลือกเป็นทะมัดทแมง รองเท้าผ้าใบได้ยิ่งดี ควรเลือกเสื้อผ้าให้ตรงกับอากาศมากๆ เพราะเคยได้ยินรุ่นพี่หลายคนไปตอนฤดูใบไม้ร่วง แต่ต้องเอาไปทำงานเอาท์ดอร์ หนาวมาก….แขนยาวได้ก็ดี เพราะบางคนก็บ่นว่าแดดแรงมาก แต่ถ้าไปเรียนก็…ยังไงก็ได้ใส่ไปเถอะ
3. ถ้าที่นั่นถูกกว่าก็ค่อยไปซื้อดีกว่าเนอะ
- สายการบินแต่ละสายการบินให้ไม่เหมือนกัน อย่าคิดว่าไปอเมริกาได้ 2 ใบหมด เพราะบางสายการบินก็ไม่ได้ น้ำหนักก็สำคัญ อย่าลืมยกขึ้นตาชั่งก่อนออกจากบ้าน ^^
ของเราเอาไป 2 ใบใหญ่ค่ะ
สิ่งที่เอาไป
เสื้อผ้า
เพราะเสื้อผ้าที่ไทยสวยและถูกกว่ามากกก ขึ้นอยู่กับเมืองที่เราไปด้วยว่าหนาวแค่ไหน อากาศเป็นอย่างไร ถ้าไปทางเหนือๆ หนาวๆ ก็ต้องเอาให้หนาหน่อย แต่ถ้าไปทางใต้ก็ไม่จำเป็นต้องหนามากเท่าไหร่
เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงทั้งหมดเอาไปกี่ตัว…ก็เอาไปเท่าที่จะยัดใส่กระเป๋าไหวนั่นแหละ
แนะนำให้ใช้วิธีม้วนเสื้อ แทนการพับ จะประหยัดที่ได้เพียบ เอาไว้ยัดตามที่ต่างๆ อย่างเช่นในถ้วยหรือในกระติกน้ำ
เสื้อสำหรับออกงานสังคม
ผู้หญิงอาจเอาเป็นชุดเดรสเรียบๆ หรือชุดแซ็กก็พอแล้ว ไม่รู้จะได้ใช้หรือเปล่า แต่เรามีพอดีก็เลยหยิบติดไป
ชุดชั้นใน/ถุงเท้า
เราเอาไปเยอะเหมือนกันนะ เพราะเป็นอะไรที่ต้องเปลี่ยนทุกวัน….จะได้ไม่ต้องซักผ้าบ่อย ขี้เกียจมากกกก
อุปกรณ์กันหนาว
ของเราเอาโค้ตไป 1 ตัว กับแจ๊ตแก๊ตหนาๆ ที่เอาไว้ลุยหิมะ กันเปียกได้อีกตัว ถ้าใครไม่มีไปซื้อเอาที่นู่นก็ได้นะเพราะจะช่วยกันหนาวได้มากกว่า (จริงๆ มีเสื้อหนาว ไปด้วยอีก 2-3 ตัว)
ถุงมือ
ถุงเท้า(เอาไปเยอะๆเลย)
ผ้าพันคอ หมวก และที่ปิดหู << อันนี้สำคัญมากกก
แนะนำให้ซื้อถุงซิปล็อก หาได้ที่ไดโซะ 60 บาท เพราะพวกเสื้อหนาวจะฟู พอง กินที่มากๆ
แต่จริงๆ จะบอกว่าพวกเสื้อคาดิแกน ที่ใส่ๆ กันที่ไทยคือเอาไม่อยู่เลย TT ยกเว้นซื้อจากร้านแบรนด์เมืองนอก หรือเสื้อผ้าสำหรับส่งออก แต่ถ้าซื้อที่ตลาดนัดอะไรแบบนี้ เอาไม่อยู่เลย…
รองเท้า
เป็นอีกสิ่งที่เราหนไปเยอะเหมือนกัน
- ผ้าใบ 1 คู่
- แตะ ไว้ใส่เดินในหอพัก/ใส่เข้าห้องน้ำ 1 คู่
- แตะ สวยๆ ไว้ใส่ออกข้างนอก 1 คู่ (จริงๆ ไม่ต้องเอาไปก็ได้ ถ้าไปเมืองหนาวอย่างบอสตันคือทั้งปีที่เรียนได้ใส่แค่เดือนครึ่ง…)
- บู้ท 1 คู่
- คัชชู หุ้มส้น 2 คู่
จริงๆ ไม่น่าต้องเยอะอย่างเราก็ได้นะ เราเป็นคนใส่รองเท้าเยอะ ^^ แต่เอาขึ้นเครื่องก็ 2 คู่ละ ประหยัดที่ไปเยอะ เมื่อก่อนใส่คัชชูขึ้นเครื่องมีแตะไปเปลี่ยน เดี๋ยวนี้ลากแตะขึ้นเครื่องเลยค่ะ…. อย่าได้แคร์ 55
ของใช้ส่วนตัว
พวกของใช้ในห้องน้ำ เราเอาไปแค่แปรงสีฟันกับยาสีฟันที่ใช้อยู่ปัจจุบันอย่างเดียว หวีด้วย ที่เหลือค่อยไปซื้อเอาที่นู่น เพราะพลิกๆ ดูแล้ว หลายอย่างก็มาจากอเมริกานิน่า
แว่นตา คอนแท็กเลนท์
ตัดมาให้พร้อม ตั้งแต่เรามาที่นี่ เราก็ยังไม่เคยร้านตัดแว่นเลย มันคงมีแหละ แต่ไม่รู้อยู่ไหน ใครใส่คอนแท็กก็เอามาด้วย เพื่อนคนญี่ปุ่นเราคนหนึ่ง นางอยากได้คอนแท็กใหม่ แต่ตอนนี้ยังหาร้านไม่ได้เลย
ยาที่เราเอาไป
- ปฐมพยาบาลเบื้องต้น – ยาแดง พาสเตอร์ ยาหม่อง พารา (เราว่าตรงนี้เบสิก ทุกคนน่าจะเอาไปนะ)
- ยาแก้ปวดท้อง – ด้วยความที่เราเป็นโรงกระเพาะ เราเอายาธาตุน้ำขาวกับยาลดกรดแก้ปวดท้อง
- ยาแก้แพ้ – คอเฟน/ยาทาแก้ผื่น (เราเป็นลมพิษ)/ ยาสำหรับกินทุกวันถ้าอาการแพ้กำเริบ (ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ผลิเป็นช่วงอันตราย…ถ้าใครแพ้นะ)
สิ่งสำคัญของยาคือทุกอย่างต้องมีฉลากเป็นภาษาอังกฤษนะคะ
กระเป๋าเป้
ส่วนมากเขาจะนิยมสะพายกระเป๋าเป้กันนะ ^^ เลือกแบบทนๆ ไปก็ดี
อุปกรณ์เครื่องนอน
บางคนก็เอาผ้าปูที่หนาว ผ้าห่ม หมอนไป (ใส่ถุงซิปล็อก) แต่ของเราไม่มีที่พอเลยไม่ได้เอาไป มาซื้อที่นี่ก็ได้นะ ไม่ได้แพงมาก
เครื่องเขียน
เราเอาไปเยอะมากเหมือนกัน เพราะกินที่ไม่เยอะ ทั้งดินสอ ปากกา ยางลบ ไฮไลท์ ไม้บรรทัด สมุด โพสอิท Planer แฟ้ม เรียกว่าครบเลย…มัดปากกาเอาไว้เป็นกำใหญ่ๆ แต่สรุปลืมเอาใส่กระเป๋า ทิ้งไว้ที่บ้าน TT
เราพยายามเน้นดินสอเยอะๆ เพราะที่นู่นส่วนมากใช้ดินสอ และปากกาสี ที่นี่ไม่มีขายเลยค่ะ เราตามหามาหมดแล้ว (แต่ไฮไลท์มีขายนะ) ฉะนั้น ใครชอบใช้ปากกาสี ขนมาเยอะๆ เลย
เครื่องครัว
คนไทยหลายคนเอาหม้อหุงข้าวไปนะ (แต่เราไม่) เราเอาแค่จาน ชาม ช้อนส้อม ตะเกียบ และถ้วย เท่านั้น อ้อกระติกน้ำเก็บความร้อนด้วย เราว่าหม้อมาซื้อที่นี่ก็ได้นะ…หม้อหุงข้าวก็มีขายอยู่ จริงๆ ทุกอย่างมีขายที่นี่นะ หม้อหุงข้าวหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ค่อยแนะนำ เพราะค่าไฟมันอาจไม่เหมือนกัน….อเมริกาแค่ 110V เอง ข้างไม่สุกแน่ๆ 55
อาหารแห้ง
แล้วแต่คนนะ เราไม่ได้เอาไปเลย=_= รู้สึกว่ามันกินที่ แล้วเราอยู่เมืองใหญ่ ร้านอาหารเอเชียมีเยอะ (อร่อยหรือเปล่าก็ไม่รู้) แต่สำคัญคือเราอยู่หอพัก ที่ทำอาหารไม่ค่อยสะดวก แต่ถ้าใครก็เอาของแห้งที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์นะ เพราะอเมริกาไม่ให้เอาเข้า เช่นมาม่าห้ามมีหน้าหมูอยู่หน้าซองนะ ….
กระเป๋าใบเล็ก
หรือกระเป๋าสำหรับหิ้วขึ้นเครื่องนั่นแหละ เผื่อต้องไปเที่ยววันหยุด
ของไทยๆ
โปสการ์ด ของฝาก เอาไปให้อาจารย์หรือเพื่อนสนิท เราเอาเก็บไว้เป็นของขวัญวันเกิด วันเกิดใครก็คุ้ยๆ เอาไปให้
ของสวยงาม
พวกกิฟต์ โบว์ ยางรัดผม เอาไปเยอะๆ เลย สร้อย กำไล เอาไปเลย หาที่ต่างประเทศโดยเฉพาะตะวันตกยากมากกก
เครื่องสำอาง
ของเราเอาไปเท่าที่มี (ซึ่งก็เยอะอยู่) บางคนจะติดใช้บางแบรนด์ที่ไทย อย่างเช่นโฟมล้างหน้า เราไม่ค่อยแนะนำให้เอาไปเท่าไหร่ เพราะแบรนด์ที่ขายอยู่ทั่วไปในไทยมักควบคุมความมัน ทำให้หน้าแห้งขึ้น ถ้าไปใช้ที่นู่นจะแห้งเกินไป
และที่เมกา มีแบรนด์ดีๆ แล้วราคาก็ถูกกว่าที่ไทยเยอะ อย่าลืมพวกกรรไกรตัดเล็บ แหนบพวกนี้นะ
เงิน/บัตรเครดิต
อันนี้สำคัญมากกก
หนังสือ
เราเอาไปเยอะเหมือนกัน เพราะชีวิตเราขาดหนังสือไม่ได้ มีนิยายญี่ปุ่นเล่มเล็กๆ 3 เล่ม หนังสืออีก 3 เล่ม พักวอนฮีและอาจารย์คิมรันโดอีก 3 เล่ม…ประมาณนี้แหละ (อยากเอาไปเพิ่มนะ ^^)
(ถ้าที่นั่นถูกกว่าก็ค่อยไปซื้อดีกว่าเนอะ)
มือถือ
ใครใช้สมาร์ทโฟนอยู่ก็เอาไปได้นะ แต่ของเราไปซื้อที่นู่น กะว่าจะใช้ของ Virgin Mobile เป็นแบรนด์ไม่ใหญ่ แต่ราคาถูกกว่าพวกบริษัทดังๆ เขาบังคับให้ซื้อมือถือกับเขา…ก็ได้ถือโอกาสเปลี่ยนเครื่องใหม่เลย ^^
พาสปอร์ต/I20
รักษายิ่งชีพ
คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
ตรวจให้แน่ใจว่าก่อนว่า แใช้โปรแกรมของแท้หรือเปล่า ถ้าไม่ ไปหาของแท้มาลงด่วน เพราะเขาจะสุ่มตรวจที่สนามบิน เจอก็โดนปรับแพงอยู่นะ
นาฬิกา
สิ่งที่ไม่ต้องเอาไป
อาหารสด
เอาไปก็ต้องทิ้งอยู่ดีเนอะ เพราะเอาเข้าประเทศไม่ได้
เครื่องใช้ไฟฟ้า
เพราะอเมริกาใช้ 110 โวลต์
ดิกชั่นนารี
เราไม่เอาไปค่ะ ใช้ในเน็ตเอา มันหนักเกินไป TT
อย่าลืมว่า
- ห้ามเอาของเหลวเกิน 100 ML ขึ้นเครื่อง แต่แนะให้แบ่งใสขวดเล็กๆไป โดยเฉพาะพวกครีม เอาไปทาหน้าทาผิวตอนอยู่ข้างบนเครื่องเพราะอากาศข้างบนแห้งมากก
-
อาหารสด ห้ามเอาเข้าอเมริกา แม้จะเป็นของที่เสิร์ฟบนเครื่องก็ไม่ได้นะ แต่พวกผลไม้แปรรูปแพ็คอย่างดี อาหารกระเป๋าพอเข้าได้จ้ะ
เราก็เอาไปแค่นี้แหละ ถ้านึกออกจะมาเพิ่มเรื่อยๆ เดี๋ยวถึงบอสตันแล้วจะซื้อของเพิ่มอีก จะมาอัพในเอนทรี่หน้าๆ แล้วกันนะ ♥
กระเป๋าของ จขบ ที่ขนไปทั้งหมดนี่น้ำหนักเท่าไรอาคะ?
2 bags, each is around 18 KG ka