นั่งอ่านบล็อกตัวเองเกี่ยวกับญี่ปุ่นแล้วถึงรู้ว่า เรายังไม่ได้ค่อยได้เขียนเกี่ยวกับ N3 เล่นนี่นา วันนี้ขอมาเขียนเรื่องการเรียนการสอบ N3 ของเราแล้วกันนะคะ
สำหรับคนที่เริ่มเรียนญีปุ่น แนะนำให้อ่านโพสนี้ก่อนนะ
และสำหรับคนที่จบมินนะ 4 เล่มแล้ว กำลังหาหนังสืออ่านต่อแนะนำโพสนี้ค่ะ
แนะนำหนังสือญี่ปุ่น เริ่มต้น – ชั้นกลาง (N3)
มาถึงเรื่องของ N3 ของเราดีกว่า
เริ่มแรก N3 จำเป็นต้องสอบไหม
ถ้าเคยได้ยินในหมู่คนเรียนญี่ปุ่นพูดกัน เขาก็จะชอบเชียร์ให้สอบ N2 ไปเลย เพราะมันมีหลายเหตุผลค่ะ
- ถ้าจะเป็นล่ามหรือทำงานบ.ที่ญี่ปุ่น ส่วนมากเขาเอา N1/N2 ส่วน N3 ส่วนมากทำได้แค่เลขา ประสานงานอะไรแบบนี้
- N3 ข้อสอบเนื้อหาขอบเขตไม่ชัดเจน บางทีมันก็เอาเนื้อหา N2 มาออกด้วย ตอนเราสอบ N3 เราแบบเห้ยคันจิตัวนี้มันควรอยู่ N2 ไม่ใช่หรอ 55 สำหรับเราเนื้อหา N3 มันเป็นเหมือน N2เว่อร์ชั่นง่ายอ่ะ เช่น คันจิ คำศัพท์ก็ง่ายหน่อย แล้วก็การอ่าน การฟังไม่ยาว ไม่ซับซ้อนเท่า
ตกลงจะสอบดีไหม
- แล้วแต่นะ ใครที่คิดว่าเตรียมสอบ N2 ไม่ทัน/ไม่ผ่านแน่ๆ แต่อยากลองสนามสอบก็ไปสอบเลยก็ได้นะ อย่างเราก็อ่านไม่ทันแต่อยากสอบ อยากลองสนามสอบ เราสอบ N3 เป็นครั้งแรกเลย คิดว่าอย่างน้อยก็ได้ประเมินความรู้ตัวเองแล้วก็ได้ใบอะไรมา เผื่อตกงานจะได้หางานทำได้ 55
ใช้เวลานานเท่าไหร่
ถ้านับจากวันที่นั่งคัด อะ อิ อุ เอะ โอะ ก็ 1 ปีค่ะ อยู่ที่ไทยนี่แหละค่ะ ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เรียนที่สสท ถึงแค่มินนะ 2 ที่เหลืออ่านเองจ้า มีไปเรียนคอร์สคันจิกับคอร์สติว N2 ช่วงปิดเทอมหน้าร้อนแทบไม่ได้อ่านเลยเพราะติดฝึกงาน ชีวิตตอนนั้นโหดมากกก ฝึกงาน จ ถึง ศ วันหยุดคือนั่งอ่านญี่ปุ่น จนมาประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนสอบคือนั่งฟิตอ่านจริงๆ เช้าไปเรียนภาษาอังกฤษ ตอนบ่ายนั่งอ่านญี่ปุ่น
อ่านหนังสือยังไง/ หาหนังสือที่ไหนอ่าน
อยากบอกว่าจบมินนะ แล้วชีวิตเคว้งคว้างมาก 55 ไม่รู้จะอ่านอะไร ก็หาหนังสือเตรียมสอบวัดระดับ N3 มาอ่าน แล้วก็อ่านพวกหนังสือเรียนญี่ปุ่นระดับกลาง อ่านไปเรื่อยๆ ตอนนั้นตั้งเป้าว่าก.ค.จะสอบ N2 ก็เลยฟิตนิดนึง แต่สุดท้ายไม่ทัน เพราะติดฝึกงานด้วย ก็เลย N3 ก็ได้จ้า แต่ก็มีอ่านของ N2 บ้างนิดหน่อยนะ
เหนื่อย ท้อ ทำไง
สำหรับเรา N3 เรายังไม่ค่อยท้อนะ ไม่ดราม่าเท่าตอนสอบ N2 (อยากอ่านไปอ่านใเรียนญี่ปุ่นด้วยตัวเองจนผ่าน N2 ภายใน 2 ปี) อันนั้นทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย ทุกอย่างครบ อาจเพราะ N3 ตอนนั้นยังเพิ่งเรียนญี่ปุ่นมาได้ 1 ปี ชีวิตยังใสๆ แล้วเราเน้นเรียนญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก เราไม่ได้เรียนเอกญี่ปุ่น หรือจะเอาเป็นอาชีพ คือเรียนเพราะชอบล้วนๆ
ส่วนตัวเราว่าการเรียนภาษาระดับต้นๆ หรือระดับกลางช่วงแรก ชีวิตจะยังใสๆ อยู่นะ (ถ้าใครรู้สึกว่าไม่สดใสแล้วก็พยายามดึงตัวเองให้สดใสเข้าไว้นะ) 55 แล้วมันจะรู้สึกเห็นพัฒนาการชัดเจนมาก คือมันจะยังสนุกอยู่ คำศัพท์ก็ใกล้ตัว ไปร้านอาหาร ไปเที่ยว ฯลฯ คันจิก็ฝนตก สนามบินอะไรงี้ พอเรียนระดับสูงๆ นี่คำศัพท์แต่ละคำคือแบบ….. ยิ่งแกรมม่า N1/N2 นี่คือแบบ เป็นแกรมม่าที่จะเจอเฉพาะในข้อสอบอ่ะ 55
สุดท้ายสำหรับเรา N3 เป็นแค่เหมือนทางผ่านอ่ะ จะสอบก็ได้ ไม่สอบก็ได้ ทุกวันนี้สอบมาก็ไม่ได้ใช้อะไรเลย ถ้าผ่าน N3 แล้วก็สู้เพื่อ N2 ต่อไปนะ
- เรียนเองก็ผ่านได้นะ
- ระยะเวลา ไม่สำคัญเท่าความตั้งใจ เราเคยเจอคนผ่าน N1 ภายในปีครึ่งก็มี……
- อายุไม่สำคัญ เราเริ่มเรียนญี่ปุ่นนั่งคัดอะอิอุเอะโอะก็ตอนอายุ 18 แล้ว ไม่รู้ว่าถือว่าเด็กหรือแก่นะ… ถ้าเทียบกับคนทั่วไปอาจเร็วแต่ถ้าเทียบกับพวกเด็กศิลป์ญี่ หรือเด็กเอกญี่ ก็ถือว่าช้ามาก (สมัยถือมินนะเล่มต้นๆ นี่ห่อปกด้วยกระดาษห่อของขวัญเลยค่าา เขิน ไม่กล้าถือ ไม่รู้ทำไม แต่จะรู้สึกว่าคนที่ถือหนังสือเตรียมสอบ N2 ไรงี้ดูเท่มาก 55 พอมาเป็นคนเตรียมสอบจริงๆ รู้เลย เป็นความเท่เคล้าน้ำตา 55)
แนะนำโพสนี้นะ