ช่วงนี้มีคนถามมาเยอะเหมือนกัน ว่าควรเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือเกาหลีดี (หรือควรเรียนภาษาอะไรก่อน) อย่างที่เราเคยบอกไว้ชัดเจนว่า เราไม่สนับสนุนให้ “เริ่มต้น” เรียนเกาหลีและญี่ปุ่นพร้อมกัน เพราะมันจะงงมากๆ และไปไม่รอด….
ใครที่ไม่เคยอ่านโพสก่อนหน้า อยากแนะนำให้อ่าน
อยากเรียนภาษาที่ 3 เรียนภาษาไหนดี
เรียนภาษาที่ 3-4 (ญี่ปุ่น/เกาหลี) (โพสนี้เราแปลมาจากคนๆ หนึ่งที่เขาเรียนภาษาเกาหลีก่อนแล้วค่อยเรียนภาษาญี่ปุ่น)
แต่โพสวันนี้ เราขอมาแนะนำในฐานะคนเรียนญี่ปุ่นก่อนแล้วค่อยมาเรียนเกาหลี รวมไปถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่มีต่อญี่ปุ่นและเกาหลี
ขอบอกไว้ก่อน ว่าเราไม่่ค่อยได้มีโอกาสได้สัมผัสเกาหลีในแง่มุมชีวิตจริงๆ ส่วนมากจะจากหนังสือและทีวี (ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้เล่าทุกอย่าง) และเราก็ยังไงเคยไปเกาหลีและก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเกาหลีด้วย….เลยอาจเล่าในมุมของเกาหลีได้ไม่มากนะ
ควรเริ่มเรียนภาษาไหนก่อนดี
ส่วนตัวอยากบอกว่า “ให้เลือกภาษาที่ชอบและคิดว่าเราจะไปรอดกับมันได้มากที่สุด” ไม่ต้องคำนึงถึงความยาก เพราะมันยากเท่าๆ กันเลย
แต่ถ้าใครที่ชอบทั้งเกาหลีและญี่ปุ่นเท่าๆ กันเหมือนเรา เราอยากแนะนำให้เลือกเรียนญี่ปุ่นก่อน เหตุผลคือ ที่ไทยมีตำราญี่ปุ่น มีหนังสือญี่ปุ่น และมีโรงเรียนสอนภาษาญี่ปุ่นเยอะมาก มีทั้งสำหรับระดับต้น กลาง และสูง ต่างจากเกาหลี ที่หาหนังสือเรียนยากมากกกกก โรงเรียนสอนภาษาก็น้อยกว่า….
เรียนญี่ปุ่นก่อนเกาหลีดียังไง (หรือเกาหลีก่อนญี่ปุ่นดียังไง)
ดีตรงที่ว่าทั้งสองภาษา มันจะมีอะไรที่เหมือนกันเยอะ (แต่ไม่ได้เหมือนกันทุกอย่าง) อย่างบางคำศัพท์เกาหลี (ที่คล้ายญี่ปุ่น) เราเจอทีสองทีก็จำได้แล้ว หรือแกรมม่าบางตัว ที่แปลไปเป็นญี่ปุ่นได้แบบเป๊ะๆ (ไม่ได้มีเยอะเท่าไหร่หรอก) ก็ทำให้เราเข้าใจได้เร็วขึ้น
เมื่อไหร่ถึงควรเริ่มเรียนเกาหลี หรือญี่ปุ่น
อย่างที่บอก เมื่อถึงระดับกลาง (ค่อนไปทางสูง) ของญี่ปุ่นหรือเกาหลี อยากบอกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเริ่มเรียนพื้นฐานพร้อมกัน…มันสับสน งง แล้วเสียเวลามาก มุ่งไปทางเดียวให้รอดจนถึงระดับกลางค่อนสูง แล้วค่อยเริ่มอีกภาษาหนึ่งจะดีมาก เพราะภาษาที่เรียนก่อนจะช่วยสนับสนุนอีกภาษาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ถ้าคำแนะนำส่วนตัว ก็ควรเริ่มเรียนเกาหลีได้ เมื่อความรู้เราอยู่แถวๆ ผ่าน N3 หรือ N2
ส่วนคนที่เรียนเกาหลีก่อน ก็น่าจะเริ่มได้แถวๆ เมื่อเราผ่าน TOPIK Level 3-4
ภาษาไหนยากกว่ากัน
อยากบอกว่า ยากทั้งคู่ แม้ว่าคนส่วนมากจะบอกว่าญี่ปุ่นยากกว่า แต่ส่วนตัวรู้สึกว่า เกาหลียากกว่า…. (แม้ว่าเกาหลีจะเป็นภาษาที่ห้า มันควรง่ายขึ้นไม่ใช่รึ) อาจเพราะญี่ปุ่นเราได้ลงเรียนคอร์สพื้นฐาน และก็ได้ไปติวบ้างตามสถาบัน ก็เลยอาจทำให้เราเข้าใจมันได้ง่ายขึ้น แต่ขอมาเปรียบเทียบดังนี้
การออกเสียง – ญี่ปุ่นจะออกเสียงตรงตัวอักษร ในขณะที่เกาหลีไม่ เกาหลีเป็นภาษาที่มีข้อยกเว้นเยอะมากในทุกๆ เรื่อง ทั้งแกรมม่า การผัน การออกเสียง
การสะกด – เพราะบางคำของเกาหลีมีการลิงค์เสียง ทำให้การสะกดคำแอบยาก แต่ญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีคันจิให้จำมากมาย
คำศัพท์ – ยากทั้งคู่ ญี่ปุ่นมีคันจิที่เหมือนจะทำให้ยุ่งยาก แต่มันก็ช่วยให้จำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น (หรอ) เพราะบางทีเราจำความหมายตัวคันจิได้ก็ทำให้เดาความหมายของคำศัพท์ได้ ในขณะที่เกาหลีต้องจำคำศัพท์แบบเดี่ยว ล้วนๆ
แกรมม่า ส่วนตัวคิดว่าเกาหลีแกรมม่ายากกว่าและเยอะกว่า แถมมีข้อยกเว้นมากมาย
การฟัง ส่วนตัวรู้สึกว่าการฟังภาษาเกาหลีง่ายกว่า อาจเพราะดูซีรีย์เยอะหรือเปล่า….
การพูด เรารู้สึกว่าเกาหลีง่ายกว่า เราคิดว่าเวลาเราพูด สำเนียงเกาหลีเราดีกว่าญี่ปุ่นเยอะ (อาจเพราะเราฟังเกาหลีเยอะ) แต่ถ้าพูดสื่อสาร ญี่ปุ่นได้เยอะกว่าแน่นอน เพราะคลังคำศัพท์เกาหลีในหัวเราต่ำมาก
การอ่าน ยากทั้งคู่ ญี่ปุ่นยากตรงที่ว่ามีคันจิ แต่เกาหลีไม่มี มันก็เลยทำให้เกาหลียากเหมือนกัน เพราะบางทีเราก็รู้สึกตาลาย (ตัวอักษรเป็นพรืด)
การเขียน ยากทั้งคู่ เกาหลีก็ยากตรงการสะกดนั่นแหละ (อารมณ์เหมือนภาษาไทยในบางที) ญี่ปุ่นก็ยากตรงคันจิ เขียนไม่เป็น
การพิมพ์ อันนี้รู้สึกว่าญี่ปุ่นง่ายกว่า เพราะถ้าเราพิมพ์ผิด คันจิตัวที่ถูกมันจะไม่ขึ้น เราก็แก้ได้ ในขณะที่เกาหลี เราไม่รู้ว่าพิมพ์ถูกหรือเปล่า…
จะลืมไหม ภาษาที่เรียนก่อนหน้าไหม
อาจมีบ้าง เอ๊ยล้อเล่น คือถ้าไม่ทวน ทุกอย่างที่เรียนไปมันจะลืม
แต่วิธีที่เราใช้ คือ ตอนนี้เราเรียนเกาหลีด้วยญี่ปุ่น (หลังจากรอคอยมาหนึ่งปี เราก็สามารถทำสิ่งนี้ได้) เช่นเราจะหาความหมายคำศัพท์เกาหลีในดิก เกาหลีญี่ปุ่น หรือแม้แต่คำอธิบายแกรมม่า ก็ใช้เว็บญี่ปุ่น สมุดโน้ตเราก็มีแต่เกาหลี แล้วแปลความหมาย อธิบายเป็นญี่ปุ่น
ตอนแรก ก็ตาลาย แต่ทำไปเรื่อยๆ เรารู้สึกว่ามันช่วยทวน และตอกย้ำภาษาญี่ปุ่นเราให้แข็งแรงกว่าเดิมอีกนะ
(นี่แหละสาเหตุที่แนะนำให้เรียนภาษาหนึ่งจนคล่อง แล้วค่อยเริ่มอีกหนึ่งภาษา)
ประเทศเกาหลี Vs ญี่ปุ่น
ส่วนตัวเปรียบเทียบไม่ค่อยถูก เพราะไม่ค่อยรู้ ไม่เคยไปเกาหลีเท่าญี่ปุ่น เลยมาเล่าเท่าที่รู้ ผิดพลาดยังไง ช่วยบอกด้วยนะคะ
ชนบท – ชนบทเกาหลีจะเจริญน้อยกว่าญี่ปุ่น อารมณ์บางทีก็เหมือนไทย… แต่คนชนบทก็ใจดีทั้งคู่
สังคมหน้าไว้หลังหลอก – อันนี้เคยอ่านเจอคนด่าญี่ปุ่นเยอะ ส่วนตัวคิดว่าไม่ได้ขนาดนั้น ทุกประเทศล้วนมีสังคมเช่นนี้เหมือนกันหมด (ไม่เว้นแม้แต่ฝรั่งที่หลายคนเชื่อว่าเป็นสังคมที่แสดงออกตรงๆ) ส่วนตัวเราไม่เคยคิดว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หน้าไว้หลังหลอก แต่เพราะคนญี่ปุ่นจะพยายามรักษาน้ำใจ (รักการอยู่เป็นกลุ่ม) จะมีความเกรงใจสูง แต่ถ้าสนิทกัน เขาก็จะพูดตรงขึ้น แสดงออกชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังมีมารยาทซึ่งกันและกันอยู่
คนญี่ปุ่นที่พูดตรงๆ ก็มีนะ เราเจอหลายคนอยู่ == บางคนแบบโคตรตรงจนน่าตกใจ (แถมปากจัด ชอบจิกกัดแบบขำๆ? ด้วยก็มี == แต่เป็นผู้ชายแท้ๆ เลยนะ…)
เคยเจอเพื่อนญี่ปุ่น นางพิมพ์ข้อความ แล้วก็มาขอความเห็นว่าพิมพ์อย่างนี้ดีไหม ถ้าพิมพ์อย่างนี้ แล้วคนตอบเขาจะตอบยังไง…คือนางพิมพ์ข้อความ นางคิดถึงคนตอบด้วย เพื่อนจากเม็กซิกันก็บอกว่า พิมพ์ๆ ไปเหอะ ไม่ต้องคิด ถามเรา เราแบบอ้าว เวลาพิมพ์ต้องคิดถึงคนตอบด้วยหรอ 55)
คนญี่ปุ่นเงียบ ขี้อาย – เขาจะอายเฉพาะกับคนที่ไม่สนิท ถ้าเป็นเพือนกันแล้ว ก็ไม่ค่อยนะ
อาหาร – ส่วนตัวว่าอร่อยทั้งคู่
สรุป ส่วนตัวคิดว่า เรียนภาษาไหนก่อนไม่สำคัญ ถ้ารักจะเรียน มีความสุขกับภาษานั้น ก็เรียนเลย อย่ารอช้า…..
You must be logged in to post a comment.