อาการ “โฮมซิก” อาการของคนคิดถึงบ้าน จะเกิดได้ทุกที่และทุกวัย
“โฮมซิก ไม่ได้เป็นโรคแต่อย่างใด เป็นแค่ภาวะที่บุคคลหนึ่งต้องปรับตัวจากการที่อยู่ไกลบ้าน วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ทำให้คิดถึงบ้าน คิดถึงคนที่เคยใกล้ชิด เป็นสภาวะที่คนๆ นั้นกำลังปรับตัวกับสถานการณ์ในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถทำให้มีอารมณ์เศร้าได้ แต่เมื่อปรับตัวและยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้แล้ว อารมณ์เศร้าเหล่านี้ก็หายไปเองค่ะ”
พญ. นิดา ลิ้มสุวรรณ
คุณหมอแนะนำว่า อาการของภาวะโฮมซิกนั้น จะคล้ายกับภาวะซึมเศร้า เช่น เบื่ออาหาร รู้สึกตัวเองไร้ค่า ฯลฯ ถ้ามีอาการเหล่านี้นานเกิดสองอาทิตย์ เป็นตลอดเกือบทั้งวัน ถือว่าเป็นโรคซึมเศร้าและต้องทำการรักษาค่ะ
ส่วนตัวเราไม่เคยมีภาวะโฮมซิก…หรือโรคคิดถึงบ้านเท่าไหร่ ก็จะมาแนะนำในมุมของเรานะคะ อาการโฮมซิก จะยังไม่เกิดตอนมาถึงใหม่ๆ หรอกค่ะ ช่วงมาใหม่ๆ ชีวิตคนส่วนมากจะอยู่จุดพีคมาก อันนั้นก็สวย อันนี้ก็น่าตื่นเต้น แต่พอผ่านจุดพีคไป ชีวิตจะลงไปอยู่จุดต่ำสุด (ของการมาเรียนต่างประเทศ) หลังจากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ ไปตามเรื่อง
- หาเพื่อน!!
การมีเพื่อนสามารถช่วยอาการโฮมซิกได้ นึกดูว่าอยู่ไทย เรียนเสร็จ ก็มักนั่งคุยกับเพื่อน ไปเดินสยามกับเพื่อน กลับบ้านก็เจอพ่อแม่ พี่น้อง มีแฟน ฯลฯ แต่มาอยู่ที่นี่ บางทีคลาสเมต เรียนจบคลาสปั๊บ ก็แพ็กกระเป๋าแทบจะวิ่งออกนอกห้องไปเลย ไม่มีมานั่งอ้อยอิ่งเหมือนที่ไทย
ดังนั้น หาเพื่อนค่ะ! เพื่อนอเมริกันก็ได้ เพื่อนต่างชาติก็ดี (หรือเพื่อนคนไทย ก็แล้วแต่คน แต่ส่วนตัวเราพยายามหลีกเลี่ยงเพื่อนคนไทย เพราะถ้าคบแต่เพื่อนคนไทย ภาษาก็ไม่พัฒนาแน่นอน… << ก็เลยได้เพื่อนสนิทเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งนางก็ไม่ค่อยอยากอยู่กับคนญี่ปุ่นมาก เพราะเรื่องภาษาเหมือนกัน…เราก็เลยสนิทกันไป)
- หากิจกรรมทำ
สิ่งที่ทำให้เป็นโฮมซิกได้ ก็คือมีเวลาว่างให้ฟุ้งซ่านมากไป หรืออยู่กับตัวเอง แบบไม่มีอะไรทำมากไป
มาอยู่ต่างประเทศ บอกได้เลยว่า เวลาว่างมันเพิ่มมาจากไหนก็ไม่รู้มากมาย โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ทำงานพาร์ททามส์ บอกได้เลยว่าเวลาว่างเรามีเยอะมาก อยู่ไทย ตอนเช้าไปโรงเรียน กว่าจะกลับถึงบ้านก็หกโมงเย็นแล้ว กินข้าว อาบน้ำ นั่งเลยคอมสักชั่วโมงสองชั่วโมง ก็หมดเวลาแล้ว
แต่มาอยู่นี่ การเดินทางก็สะดวก ไม่ค่อยเสียเวลาไปกับการเมาท์กับเพื่อนเยอะเหมือนอยู่ไทยด้วย (อาจเป็นเพราะเป็นคนมีเพื่อนไม่เยอะ)
ก็เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เริ่มทำกิจกรรมใหม่ๆ หรือหางานอดิเรกทำ ไปเดินเขา เดินป่า ทะเล ถ่ายรูป ฯลฯ คนที่อยู่อเมริกา สามารถหาได้จากเว็บ meetup.com แล้วก็เข้าไปร่วมกับเขา ส่วนตัวเราก็อยู่กลุ่มภาษาญี่ปุ่น ก็เป็นแหล่งที่ได้เจอเพื่อนญี่ปุ่นและคนอเมริกันที่สนใจญี่ปุ่นมากมาย
ส่วนตัว เราไม่มีเพื่อนเป็นคนอเมริกันเลย =_= เราก็จะอยู่กับกลุ่มนี้ เพราะคนอเมริกันพวกนี้ เขาก็กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น เขาก็จะเข้าใจคนต่างชาติอย่างเราๆ เขาก็จะพยายามอธิบาย พูดให้ชัด ก็ถือว่าได้เจอคนดีๆ แล้วก็ฝึกภาษาไปในตัว
อีกงานอดิเรกของเราก็คือ เรียนภาษา ช่วงว่างๆ เราจะนั่งอ่านญี่ปุ่น อ่านเกาหลี มีความสุขมากก เหมือนสองสิ่งนี้เป็นเพื่อนสนิทเราอีกคนเลย (แถมได้เจอเพื่อนคนจีนสองคน คนหนึ่งกำลังเรียนภาษาเกาหลี อีกคนเรียนญี่ปุ่น บางครั้งก็คุยกับพวกนางด้วยญี่ปุ่น/เกาหลี)
- อย่าโทรกลับบ้านบ่อย
เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นไหม แต่เวลาเรา คุย บางทีจะทำให้เรารู้สึกคิดถึงบ้านมากขึ้น เราจะโทรเวลาที่อยากเมาท์บางเรื่องที่ต้องพูดเป็นภาษาไทยเท่านั้น หรือไม่ก็เวลามีปรึกษาปัญหา แต่ว่าการเท็กข้อความทำให้ช่วยลดอาการโฮมซิกนะ…
- ตอกย้ำกับตัวเองว่านี่คือสิ่งที่เราเลือกเอง
เราเชื่อว่าคนส่วนมาก มาเรียนต่อเมืองนอกเพราะเลือกเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด มันคือสิ่งที่เราเลือก เราพยายาม เพื่อที่จะได้มาอยู่ในที่ๆ เราอยู่วันนี้.
- อย่าคาดหวัง
ต้นเหตุหลักของความผืดหวัง =_=
อย่าคาดหวังว่าชีวิตเมืองนอกสวยงาม หรูหรา ฯลฯ
มันก็คือการใช้ชีวิตในอีกแบบหนึ่งที่แตกต่างจากที่ไทย
ส่วนตัวเรารู้สึกว่าที่ไทย ปัญหาส่วนมากที่ทำให้เราเครียดจะมาจากคนรอบข้าง รถติด เพื่อนยืมเงินไม่คืน คนอื่นไม่ตรงเวลา เพื่อนนินทา ฯลฯ
แต่ปัญหาที่นี่ จะมาจากตัวเราเอง เช่น บ้านท่อน้ำแตก สื่อสารไม่รู้เรื่อง เหงา ฯลฯ
ฉะนั้นวิธีรับมือกับความผิดหวังอย่างดีที่สุด ก็คือไม่คาดหวังแต่ทำในสิ่งที่เราทำอยู่ให้ดีที่สุด ^_^
บอกกับตัวเองว่าเราเลือกเองนี่ที่สุดแล้ว
จะได้โทษใครไม่ได้ 😄
Like!