โรบินฮู้ดในอเมริกา 2

ไม่เชิงภาคต่อ พอดีก็อปมาจากเพจตัวเอง

https://www.facebook.com/alittleparfaits

วันนี้นั่งดู YT ดูไปดูมาไปเห็นคลิปแรงงานไทยในเกาหลี เลยมาเล่าเรื่อง illegal immigrant ในเมกาให้ฟังดีกว่า

ก็เลยนึกถึงข่าว ประมาณว่าแรงงานพม่า/เขมร เข้ามาแย่งงานคนไทย แรงงานไทยขาด เพราะหนีไปประเทศอื่นที่รายได้ดีกันหมด ทั้งสิงคโปร์ เกาหลี ฯลฯ

ส่วนเกาหลีเอง ก็หนีวีซ่ามาอยู่เมกาเยอะอยู่ (เห็นอันดับแล้วตกใจมาก อันดับ 7 มากกว่าจีนอีก)

ส่วนพวกประเทศที่ค่าแรงสูงๆ อย่างญี่ปุ่น ถ้าไปอยู่ก็จะได้ยินคนเขาบ่น “ค่าครองชีพแพง…อยากไปอยู่ประเทศที่ถูกๆ (แต่ได้เงินเท่าเดิม?) ส่วนเมกาเอง คนไม่ค่อยบ่นเรื่องค่าครองชีพ ส่วนมากบ่นเรื่องรายได้น้อย ค่าแรงขั้นต่ำต่ำเกิน อย่างตอนนี้ที่บอสตัน ค่าแรงชม.ละ $8 แต่จะปรับเป็น $11 ในอีกไม่กี่ปี (ได้ข่าวว่าพวกแรงงานเขาจะเอา $15 แต่รัฐต่อรองลงมา)

เอาจริงๆ เห็นข่าวเปิดอาเซียนของไทยแล้ว ที่กลัวกันเรื่องปัญหาแรงงาน ฯลฯ ก็เหมือนๆ อเมริกาอยู่นะ ที่นี่ คนอยู่ผิดกฎหมายคือเยอะมากกก ประมาณ 11 ล้านคน (คิดเป็น 3 % ของประชากร)
จริงๆ อาจมากกว่านี้นะ บางที่ก็บอกว่า 30 ล้านคน (10%) เพราะอย่าลืมว่าพวกนี้เดินข้ามพรมแดนมา
แค่แคลิฟอร์เนียร์รัฐเดียวก็ปาไปจะ 3 ล้านคนละ….

ส่วนประเทศยอดฮิตที่มาเมกาก็คือ เม็กซิโก แล้วก็พวกเมกากลาง เคยได้ยินแม่ครัวไทย (ผิดกฎหมายอีกเช่นกัน 55) เล่าว่าคนพวกนี้ ก็เดินข้ามพรมแดนมาเลยชิลๆ ตำรวจเมกาเรื่อง immigrant เขาไม่สนใจนะ ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ (ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองกับตำรวจแยกกันชัดเจน) แล้วเขาก็ไม่ค่อยสนใจจะส่งกลับด้วย อารมณ์แบบว่าส่งตัวกลับวันนี้ พรุ่งนี้มันก็เดินข้ามพรมแดนมาใหม่
ส่วนทำไมพี่คนไทยในครัวนี้รู้ดี เพราะในร้านเกาหลีที่นางทำ (เสิร์ฟ) คนในครัวเป็นพวกประเทศดังกล่าวหมดเลยจ้ะ

วันก่อนเราไปกินร้านเกาหลี เจ้าของกับเด็กเสิร์ฟเป็นเกา แต่ในครัวเป็น สปน (สแปนิชหมดเลยจ้ะ)

เล่าแล้วก็เล่าต่อ ถามว่าเป็น illegal immigrant ทำไรได้บ้าง
ก็ได้เยอะอยู่นะ เปิดบัญชีธนาคารได้ ขึ้นเครื่องบินในประเทศได้ (เสี่ยงแต่เคยมีคนทำได้มาแล้ว) หรือขึ้นออกนอกประเทศก็ได้นะ แต่เข้ามาไม่ได้อีกเลย 55 ซื้อของ เช่าบ้าน ล่าสุด นอกจากกฎหมายใหม่ของโอบาม่าแล้ว บางรัฐคนโดดวีซ่าก็ใบขับขี่ได้ด้วยนะ

หรือบางรัฐอย่างเช่น NY ยังให้ทำใบขับขี่ไม่ได้ แต่ก็ให้ทำบัตร ID card ได้ ซึ่งพอมีบัตรขับขี่แล้วก็ใช่ทำได้ทุกอย่างเลย เช่น ไปเปิดบัญชี ใช้เหมือนบัตรประชาชนเลยค่ะ

ถามว่าทำงานได้เงินดีไหม $$$

เอาตอบแบบตรงๆ ก็ได้ดีกว่าทำงานแรงงานขั้นต่ำของเมกาทั่วไปอ่ะ ส่วนมากตามร้านอาหารไทย เขาก็ให้ชม.ละ 8-9 เหรียญ ถ้าทำทั้งวันก็คูณไปดิ (11-12ชม.) ถ้าเป็นพ่อครัวก็วันละ $120-130 อ่ะ แล้วส่วนมากที่เห็น ก็ทำกัน 6 วันทั้งนั้น อาหารฟรีอีก คือเก็บตังค์จ่ายค่าบ้านแล้วที่เหลือก็ส่งกลับไทย ผ่อนบ้าน ส่งลูกเรียนได้เลยอ่ะ

ขนาดเพื่อนเรามา work เมกา (สามารถทำงานที่ไหนก็ได้) มันยังเลือกทำร้านไทยกันหลายคนเลย แสดงว่าคุ้มจริง

(แต่ถ้าทำงานแรงงานขั้นต่ำระดับสูงของเมกา งงป่ะ เช่นงานโรงแรมหรู ร้าน apple อันนี้ขั้นต่ำได้กัน $15++)

ข้อดีว่าไปแล้ว ข้อเสียมีไรบ้าง

จะไม่พูดเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกคิดถึงบัาน ไรงี้นะ คิดกันเอาเอง นึกภาพออกได้ไม่ยาก

อย่างแรกก็คือสุขภาพ นึกดูวันนึงทำงาน 12 ชม. ถ้ายุ่งก็ยืนทำงานทั้งวัน คือพวกที่มาใหม่ๆ 30-40 มันก็ยังไหวหรอก แต่พอเริ่มแก่ ร่างมันก็ไม่ไหวไง แต่จะหยุดทำก็ไม่ได้ ไม่งั้นจะเอาไรกิน

ยิ่งงานที่ได้เงินเยอะๆ ก็แลกมาด้วยสุขภาพทั้งนั้น คนเสิร์ฟที่ได้เงินเยอะ ก็แสดงว่าทำร้านที่ขายดี ลูกค้าเยอะ (งานก็เยอะ ยืนทั้งวัน ข้าวได้กินแป๊บเดียว จานหนักอีก แล้วจานเมกาคือหนักจริงๆ นึกถึงภาพในภัตรคารอาหารหรูๆ แต่จานขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า พอร้านยุ่งต้องยกจานหนักๆ จานที่นี่หนักมากนะ ออกไปหลายๆ ใบต่อๆ กัน…ร่างพัง)

บางคนอาจตั้งเป้าว่าจะมาทำ 5 ปีสร้างเนื้อสร้างตัว แต่เอาจริงๆ เงินมันดี (ถ้าเทียบกับแรงงานที่ไทย) กลับไทยไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไรให้ได้รายได้เท่าเดิมอีก มันก็เหมือนติดกับเงินอยู่ประมาณหนึ่ง แล้วก็ไปต่อไม่ถูก

เอาจริงๆ คือมันเป็นงานที่ไม่มีทางโต มันอาจได้เยอะจริง ถ้าเทียบกับที่ไทยแบบโห วันนึงตั้งสองสามพันแหนะ แต่ก็คือตลอดชีวิตทำก็ได้อยู่แค่นี้ นึกไม่ออกนึกถึงคนที่ทำงานแรงงานขั้นต่ำเช่นเป็นพนักงานลูกจ้างรายวัน ฯลฯ คือทำทั้งชาติ มันก็อยู่ได้แค่นี้

หนทางที่จะไปจริงๆ ก็คือต้องเป็นเจ้าของ แต่เพราะเป็นโรบินฮู้ด มันไม่มีวีซ่าไง มันก็ไม่ก็เปิดเองไม่ได้ ต้องรวมหุ้นกับคนที่มีใบ…ทำไปทำมาเสี่ยงถูกโกงอีก TT หรือหนทางอีกอย่างก็คือกลับไทย..แต่กลับไปจะไปทำอะไรล่ะ ไปเริ่มงานระดับเริ่มต้นก็อาจไม่มีใครรับเพราะอายุมากขึ้นแล้ว (เดี๋ยวเห็นรับสมัครงานพวกต่ำแหน่ง junior level/entry) ชอบเขียนว่าไม่เกิน 35 กันอยู่ด้วย จะไปต่อยอดทำงานระดับสูงขึ้น ประสบการณ์ทำงาน resume ก็ไม่แข็งอีก

หายไป 5 ปีไปทำอะไรมาคะ? อ๋อ ไปเสิร์ฟอาหารกับทำงานในครัวมา…ยากอ่ะ ที่จะได้งานดีๆ

อีกอย่างก็คือช่องทางทำกินมันน้อย เห็นร้อยละ 90 อัพ ส่วนมากก็วนเวียนอยู่ร้านอาหารไทย พ่อครัวบางคนอยู่ไทยเป็นไกด์ เป็นนักข่าว ฯลฯ แต่มานี่ไม่ทำครัวก็เสิร์ฟ เพราะมันเป็นเพียงงานเดียวที่ทำได้ ถ้าอยู่เพราะเงินอย่างเดียวก็แล้วไป แต่ลึกๆ แล้วคนเรามันก็อยากมีชีวิตที่ดีป่ะ สิ่งที่เราต้องการจริงๆ มันไม่ได้อยู่เพื่อหาเงินอย่างเดียวหรอก

ต่อมา คือ “พลเมืองชั้นสอง” มันไม่ได้มีใครมาตะโกนด่าว่า “อีต่างด้าว” ไรหรอก แต่รู้ไงว่าตัวเองเป็นคนผิดกฎหมาย เวลาถูกเอาเปรียบ (ไม่ได้พูดในแง่ของเงิน ธุรกิจอย่างเดียวนะ) หมายรวมไปถึงชีวิต ประจำวัน เช่นถูกปล้น ถูกขโมย จะไปแจ้งความก็…..ไม่กล้า เคยเห็นคนเปิดแผลเป็นที่แขนให้ดู อย่างยาว บอกว่าถูกโดนปล้น….

เอาจริงๆ  อีกอย่าง คือโคตรเหนื่อยเลย55 โดยเฉพาะถ้าเป็นคนที่ไม่ใช่คนที่เคยทำงานใช้แรงงาน ไม่ใช่คนที่ถึกมาก่อน แค่ขนาดจานที่นี่ก็โคตรหนักละ

ขีวิตความเป็นอยู่สบายไหม

มันก็มีทั้งสบาย ไม่สบายต่างกันไปนะ อยู่ที่นี่จะอดทนขึ้นอัตโนมัติ ง่ายๆ เดินจากบ้านโลนึงไปสถานีรถไฟ ไรงี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก อยู่ไทยเกิน 250 เมตรเราก็ไม่เดินแล้วป่ะ 55 อย่าบอกว่าเพราะอากาศดี คือมันดีแค่บางช่วง (spring & Fall) หลังจากนั้น summer ก็ร้อนมาก คืออาจไม่ร้อนเท่าไทย แต่ก็ร้อน พระอาทิตย์นี่กลางหัวเลย 55 พอหน้าหนาวนี่คืออย่างทรมาน

แล้วบอสตันหน้าหนาวแบบเลขตัวเดียวนี่ ตั้งแต่พ.ย ถึงมีนาเมษานู่น… (ติดลบตั้งแต่ธันวายันมีนา)

เมื่อกี้เพิ่งเดินกลับบ้านกิโลนึงท่ามกลางอากาศ -11’C หนาวไปถึงไส้ติ่งเลยทีเดียว 55 หรือล่าสุดเราก็ทำลายสถิติเดินกลับบ้าน 1 โลที่ – 20กว่าองศามาแล้ว

สบายหรือไม่สบาย มันก็แล้วแต่คนนะ… มันก็มีดี เสีย ต่างกันไป แต่อยู่นี่เรา active มากกว่าไทยอ่ะ ตอนอยู่ไทยแบบขี้เกียจมากกกก

แล้วก็ตำรวจ ไม่ต้องกลัวนะ 55 พวกโดดวีซ่าเดินผ่านตำรวจนี่ตัวเกร็งกันหมดทุกคน จริงๆ เขาไม่มีสิทธิ์จับนะ คนที่มีสิทธิ์จับคือ immigration ซึ่งมันก็ไม่ได้มาป้วนเปี้ยนอยู่ในเมืองไง

ส่วนตัวไม่ได้สนับสนุนไรหรอกนะ คือชีวิตใคร ชีวิตมัน ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลของตัวเอง มีคนหลังไมค์มาเหมือนกัน เรื่องนี้ ก็จะบอกแค่ว่าคิดดีๆ นะ ก็ไม่ได้อะไร แต่ illegal immigrant ในเมกามีชีวิตอยู่ดี อยู่ง่ายสุดแล้วมั้ง ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ

คือก็บางเรื่องมันดูเหมือนผิด แต่จริงๆ มันก็ก้ำกึ่ง ยิ่งเจอกฎหมายใหม่โอบาม่าก็ยิ่งรู้สึกว่า อืมมม นานๆ สีดำก็จะจางกลายกลืนๆ กลายเป็นสีเทา

แต่คนที่โดดวีซ่าก็จะโดนกลุ่มคนไทย (ที่ยังไม่ได้วีซ่าเมกา) ด่าไปนะ เพราะทำให้ขอวีซ่ามาเมกายากขึ้น ยิ่งพวกมีโปรไฟล์คล้ายๆ กับพวกคนที่โดดเยอะๆ นี่เตรียมตัวเลย 55 แต่มาอยู่ที่นี่ไม่มีใครเกลียดหรอกนะ อ๋อ หนูไม่มีใบค่ะ / หนูโดดมาค่ะ แค่นี้คนที่นี่เขาก็เข้าใจนะ ไม่มีด่ายืดยาวแบบในพันทิปหรอก

พันทิปมันสังคมไทยที่อยู่ที่ไทย 55+ ที่นี่มันอเมริกา อย่าไปสนใจมาก
… แต่ก็ต้องระวังคนไทยที่อเมริกาด้วย ส่วนมากเขาก็ไม่ค่อยยุ่งอะไรหรอก แต่บางพวกที่มีใบเขียวหรือได้ citizen แล้วก็จะเกลียดคนไทยที่เป็นโรบินฮู้ดที่เมกา หรือคนไทยที่ทำงานในเมกาแล้วไม่เสียภาษีมากกกกก…. คือเราเคยอ่านคนเขาด่ากันแล้วแบบ เห้ย กรูทำผิดอะไรขนาดนั้นวะ  แต่เป็นส่วนน้อย อย่าไปใส่ใจมาก

แต่ส่วนจะรับทำงาน หรือเปล่าก็อีกเรื่องนะ เกี่ยวกับตัวเรามากกว่าว่ามีใบหรือเปล่า

เวลาเตรียมสัมภาษณ์วีซ่าก็แนะนำให้เตรียมตัวให้ดี เอกสารให้แน่น ไม่ต้องถามว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ ฯลฯ คือต้องมีไปให้แน่ใจว่า “ฉันไม่โดดวีซ๋าแน่ๆ” (แต่จะโดดทีหลังก็เรื่องของเธอ) เป็นนักเรียนก็หลักฐานการเรียน ทำงานก็หลักฐานการงาน เงินเดือน เงินเก็บ ฯลฯ พวกไม่ผ่านก็พวกที่ไปขอวีซ่าตอนเพิ่งเรียนจบนี่แหละ โดยเฉพาะถ้าเคยโดนปฎิเสธมาแล้วยิ่งยาก

ต้องสัมภาษณ์ ถ้าจะไปเรียนก็บอกไป ถ้าจะไปเที่ยวก็มีแผนการให้มันแน่นอนเป๊ะๆ ว่าจะไปทำอะไร เที่ยวที่ไหน ยังไง กับใคร เมื่อไหร่ เอาให้เป๊ะๆๆ เคยเจอคนตอบแบบ “อ๋อก็ไปเที่ยวสักเดือน ที่อยู่ก็ยังไม่แน่ใจ ฯลฯ” สรุปไม่ผ่านค่ะ

แล้วก็สวดมนต์พกดวงไปเยอะๆ 55 แต่ถ้าไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ จริงๆ เมกามันก็ไม่ได้มีไรน่าเที่ยวนักหรอก (อ้าว) เทพีเสรีภาพ ไปถ่ายที่โอไดบะ ญี่ปุ่นก็ได้ 55 ดีสนีย์แล้วโตเกียวก็มี ฮ่องกงก็มี หรือกุ้ง lobster หากินที่ไทยก็พอมี หรือบอสตัน steak เมนูของซิสเล่อร์ไม่ต้องมาหากินที่บอสตันนะ เพราะไม่มี 55

พูดเรื่องคนโดดวีซ่าเราสงสัยมาก ว่ามันเกี่ยวกันแค่ไหน คนจีนขอวีซ่าเมกายากโคตร คือคนไทยว่ายากเรา จีนแบบคูณห้าอ่ะ (วีซ่านักเรียน เราได้ 5 ปี เพื่อนคนจีนเราได้ 1 ปี) แต่เกาหลี อยู่เมกาได้ 90 วันแบบไม่ต้องขอวีซ่า (ในเมกา มีเกาหลีโดดวีซ่า 2 แสน จีนแสนนิดๆ เอง)
ตกลงมันใช้อะไรวัดกันแน่ แต่อย่างว่า ไทยหนีไปเกาหลีเยอะจะตาย เราก็ยังได้ 90 วันอยู่เลย

ปล. illegal immigrant ไม่ค่อยอันตรายนะ ค่อนข้างอยู่อย่างสงบเสงียมมาก (เพราะไม่อยากมีเรื่อง กลัวถูกส่งกลับ) อีพวกก่อเรื่อง คนประเทศ มันทั้งนั้นแหละ…

จริงๆ เมกาปกติ มันจะกลัวอยู่ไม่กี่อย่างหรอก

เรื่องแรกคือมาแย่งงาน: ซึ่งงานที่พวก Illegal Immigrant ทำคืองานที่คนเมกาไม่ค่อยทำอยู่แล้วไง ทำครัวยืน 12 ชั่วโมงงี้ ง่ายๆ คืองานดีๆ ชิลๆ สวยๆ คนเมกาก็เอาไปก่อนอยู่แล้ว เหลือแต่งานหนักๆ

เรื่องที่สองคือสวัสดิการ คือสวัสดิการเมกา สำหรับคนจนดีมากกก (เดี๋ยวว่างๆ มาเล่าให้ฟัง) ทำให้การขอสัญชาติเมกายากไง เพราะเขากลัวคนมาใช้สวัสดิการมั้ง พวกที่จะย้ายมาได้ส่วนมากถ้าไม่ใช่นักลงทุนก็ต้องมีงานดีๆ ทำ เป็นหลักประกันว่าจะไม่มาใช้สวัสดิการของ Low income

เรื่องสุดท้ายก็คือก่อการร้าย

ซึ่งบอกแล้วว่า Illegal immigrant ไม่ได้รบกวนข้างบนเท่าไหร่ โดยเฉพาะช่วงนี้รัฐบาล/ประเทศเมกาขาดเงินเยอะ ถึงได้ออกนู่นออกนี่มาไง (บางคนบอกว่าที่ให้ทำใบขับขี่ได้ ก็เพราะรัฐอยากได้เงินค่าทำใบคำขี่)

เข้ามาบ่นยาวๆ แค่นี้ล่ะ ไปล่ะ เหลืออีก 3 วิชา จบกันสักทีเทอมนี้ จะได้ไปร่อนเร่ในรัฐที่มี illegal immigrant เยอะสุด อยู่เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องเกย์เยอะสุด อยู่ที่นั่นสักเดือน ขอให้เจอเนื้อคู่ทีเหอะ เพี้ยง!

เพิ่มเติม คำศัพท์ที่ใช้กันในคนไทย (เผื่อเราอาจมีใช้บ้าง จะได้ไม่งงกันนะ)

• “ไม่มีใบ” ใบทีว่าคือใบเขียว ตีความได้สองอย่างคือคนที่ไม่มีใบเขียวทั่วไป หรือคนที่โดดวีซ่า (ส่วนมากคนที่ไม่ได้โดดวีซ่า แต่ไม่มีใบก็จะเรียกว่าเป็นนักเรียนแทน)

• “ไม่มี Social” คือไม่มี Social security number หรือเลขที่ไว้ใช้เสียภาษี ส่วนมากหมายถึงนักเรียนแต่นักเรียนก็ขอได้นะ

• “Delivery” ไม่ได้หมายถึงคนขับรถรับจ้าง ส่วนมากหมายถึงคนที่ขับรถส่งอาหารจากร้านถึงบ้านลูกค้า

• “ทำแอพ” คือ appetizer พวกของทอด ปอเปี๊ยะ dumpling etc. ส่วนมากก็คือตำแหน่งลูกมือในครัวนั่นเอง

• “เวท” เด็กเสิร์ฟ