บันทึกมนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่น : วันที่ 3

1

วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่ฉันทำงานในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น

ถึงจะปักชื่อว่าเป็น Trainee (実習生)แต่ชีวิตฉันก็ไม่ได้ต่างจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไป
อยู่หอพักบริษัท ห้อยโหนรถไฟยามเช้าและเย็นไปทำงาน (โดยที่บ.ออกค่ารถให้) ไปจนถึงหากับข้าวกับปลากินเอง โดยไม่ลืมที่จะบาลานซ์เงินในบัญชีให้พอดี


ครั้งหนึ่งในชีวิต นี่คือสิ่งที่ฉันอยากให้ถูกบันทึกในชีวิตว่าเคยลอง

นอกจากอยากมาฝึกภาษาญี่ปุ่นเพิ่ม และได้เรียนรู้วัฒนธรรมการทำงาน
ส่วนหนึ่ง คือฉันอยากมาลองใช้ชีวิตแบบมนุษย์เงินเดือนดู … เข้างาน 9 โมง เลิก 5 ครึ่ง
มีเงินเดือน มีโบนัส มีโอกาสที่จะก้าวสู่ตำแหน่งดีๆ ขึ้นไป
จริงๆ ก็แค่อยากรู้ว่า ใจฉันจะโน้มเอียงมาทางนี้ เพื่อรับสิ่งนี้แลกกับการทำงานแบบนี้หรือไม่
ด้วยเพราะกำหนดการฝึกงานของฉันแค่ 2 เดือน
มันเลยไม่ทำให้ฉันลำบากใจมากนักในการต้องฝืนธรรมชาติตัวเองเพื่อให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม
ฉีดสเปรย์ผม ใส่ส้นสูง ใส่ชุดเครื่องแบบ (สูท) แต่งหน้า อยู่ในเมือง เบียดคนไปทำงาน ฯลฯ
เหมือนเรามองเห็นเส้นจบที่ชัดเจน
สองเดือน ฉันฝืนตัวเองพอได้
แต่พอลองนึกหลังจาก 2 เดือนนี้จบลง ชีวิตกลับมาอยู่ในกำมือของฉันอีกครั้ง
ฉันต้องเรียนปี 4 ให้จบและหางานทำ (อีกครั้ง)
ฉันจะเลือกไปทางไหน จะทำอะไร ทุกอย่างอยู่ในมือทั้งสองของฉัน

ความยากในชีวิตอยู่ที่การที่เราพยายามเอาประสบการณ์ที่ผ่านมา มาตัดสินใจ

ว่าเราชอบสิ่งนั้น ไม่ชอบสิ่งนี้
เพราะเวลาเปลี่ยน ความรู้สึกเราต่อสิ่งนั้นก็เปลี่ยน (ความรักก็เช่นกัน 55)
ถ้าเป็นเมื่อก่อน
ไม่ต้องย้อนไปไกล แค่ 2 ปีที่ผ่านมา ให้ฉันฝืนธรรมชาติตัวเองแบบข้างบนทั้งหมดนี้ แล้วได้ค่าตอบแทนเท่านี้ (บวกได้อยู่กับประเทศในฝัน) ฉันไม่ลังเลที่จะคว้า
ฉัน เมื่อ 2 ปีก่อนกล้าพูดว่าเงินซื้อได้ ให้ทำงานหนักแค่ไหนก็โอเค (ถ้าค่าตอบแทนดี)
หรือแท้จริงแล้ว เวลาเปลี่ยน ทำให้ธรรมชาติความเป็นตัวเรามันเปลี่ยนไปด้วยนะ

วันนี้ได้ไปฟังอบรมตอนเย็นเกี่ยวกับเรื่อง Leadership

เป็นทักษะที่เราโคตรไม่ถนัดและไม่มีเลย ~
ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นหัวข้อฮิตขนาดนี้ ฟังไปไม่มีความอินแบบสุดๆ
(พอๆ กับเวลาที่ฟังเรื่องคนทำยังไงให้รวย ทำยังให้ประสบความสำเร็จ ทำอย่างงี้ เรียนต่อด้านนี้เงินเดือนดีนะ)
ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองฮิปปี้ อินดี้ ฮิปเตอร์หรืออะไรนะ แต่แค่ไม่มีความสนใจด้านนี้ =_=
แต่ไปเจอประโยคหนึ่งที่โดนใจมาก คุ้มกับการนั่งฟังเกือบ 2 ชั่วโมง (เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วน ฟังก็ฟังไม่ค่อยออก)
就活の時になって初めて、自分がどう生きていたいのかをかが得るのは遅い。

ถ้าตอนหางาน แล้วเพิ่มเริ่มคิดว่าตัวเองอยากมีชีวิตแบบไหน มันสายเกินไปแล้ว

大学時代に自分でどう幸せになるのかを自分でかがえないといけない
ช่วงมหา’ลัยนี่แหละ ที่ควรคิดว่าชีวิตแบบไหน ที่ทำให้เรามีความสุข

 

บนทางรถไฟกลับบ้าน…ฉันก็ย้อนคิดถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา
ว่าณ ช่วงไหนที่ฉันมีความสุขที่สุดจริงๆ

Advertisement

Comments are closed.

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑

%d bloggers like this: