2016 ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือน จะว่าคิดถึงก็คิดถึงนะ
สำหรับเรา 2016 เป็นปีที่ยากที่สุด ท้าทายที่สุด เรียนรู้หลายสิ่ง (แต่ที่สุดไหมไม่รู้) ทำอะไรเยอะมาก และ ทำให้เราเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน
ต้นปี
เราเริ่มต้นปีด้วยความงงๆ แต่ก็ได้ไปเที่ยวคนเดียว โดยนั่งรถไฟจากซานฟราน ขึ้นไปถึง พอร์ตแลนด์ ใช้เวลาประมาณ 20 ชั่วโมง (รถไฟดีเลย์ไปหลายชั่วโมงระหว่างทาง) แล้วก็ต่อด้วย Seattle เป็นการพักผ่อน~
- การเรียนช่วง Spring
เราว่าเป็นเทอมที่โหดกับเราที่สุดเทอมหนึ่งเหมือนกัน เพราะเราลงเรียนเยอะมาก และเจอวิชาโหดอยู่หลายวิชา เทอมนั้นตั้งใจมากๆ ด้วยนะ ยังบ้าเกรด อยากได้เกรดดีๆ อยู่ (ตอนนี้เริ่มเฉยๆ ละ55) เอาตรงๆ ก็เครียดนะโดยเฉพาะช่วงต้นถึงตอนเกือบปลายๆ มีเรื่องอื่นๆ ปนๆ กันด้วย
จนมาอยู่วันหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าเราจะเครียดไปทำไม เราทำได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่คิดว่ามันเครียดมาถึงจุดหนึ่ง อยู่ๆ เราก็รู้สึกว่า ช่างมันเหอะ อะไรจะเกิดก็เกิด แล้วเราก็พยายามคิดแบบนั้นตลอดมาจนถึงวันนี้
อ่านเพิ่มได้ใน Reflection 1 Year in Berkeley
- ปิดเทอม Summer
ช่วงปิดเทอมก่อนฝึกงานเป็นช่วงที่มีความสุขมาก เราเรียกมันว่าโมเม้นต์ที่มีความสุขที่สุดของปี ตอนแรกเรายังกลับไทยไม่ได้เพราะยังไม่ได้เอกสารฝึกงานจากญี่ปุ่น ก็รออยู่ที่อเมริกา ไปเที่ยวกับเพื่อน เล่นนู่นนี่ เฮฮามาก เป็นครั้งแรกที่ซื้อตั๋วเครื่องวัน 5 วันก่อนบิน (ปกติซื้อก่อนเป็นเดือนๆ) เพื่อกลับไทย
พอกลับไทยก็ได้อ่านหนังสือเยอะมาก เราอยู่ไทย 1 เดือน คือเราอ่านหนังสือเฉลี่ยวันละ 2 เล่ม อ่านทั้งวันทั้งคืน แทบจะไปสิงอยู่ที่ TK Park ซึ่งในโลกนี้ ถ้าถามปัจจัย 5 ของเราคืออะไร เราเลือกหนังสือนะ ได้เจอเพื่อนๆ สมัยม.ต้น ม.ปลายด้วย ขอบคุณที่ยังติดต่อคบกันอยู่ 55
แล้ว เราได้ไปปฎิบัติธรรมที่หมู่บ้านพลัม ปากช่อง 1 อาทิตย์ ได้เจอเพื่อนใหม่หลายคน ไปเกาหลี (อันนี้ก็จองทัวร์ 2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง)
ถือว่าเป็นการชาร์จพลังที่เผื่อแผ่มาถึงตอนนี้เลย และเป็นการที่เราค้นพบหลายอย่างในตัวเอง ว่าเฮ้ย แท้จริงแล้วความสุขของเรามันอยู่ตรงนี้เอง คือการที่ได้อยู่กับธรรมชาติ กับการได้อ่านหนังสือดีๆ หลายๆ เล่ม
การหาต้นตอความสุขของตัวเองเจอ มันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นนะ เหมือนรู้ว่าจริงๆ แล้วตัวเองต้องการอะไรกันแน่ ไม่งั้น เราก็จะต้องวิ่งตามคนอื่น ตามที่คนเขาบอกว่าทำแล้วดี ทำแล้วแฮปปี้ ทั้งๆ ที่พอเราทำแล้ว อาจไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย
แต่เพราะยังหาต้นตอของตัวเองไม่เจอ เราก็เลยต้องวิ่งตามไปเรื่อยๆ
- ฝึกงานญี่ปุ่น
จะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย
มันมีทั้งความกดดัน (ที่เรากดดันตัวเอง) ไม่รู้ว่าคนอื่นกดดันเราด้วยหรือเปล่า และ ความปล่อยใจชิลๆ ของเรา ได้เจอเพื่อนม.ต้น เพื่อนที่บอสตัน ถือว่าเป็นการ reunion ครั้งหนึ่ง เป็นความท้าทายที่เราหาเรื่องใส่ตัวเอง 55
- Fall เทอมฤดูใบไม้ร่วง
เป็นพี่ปี 4 แล้วไม่ชินเลย
เป็นเทอมที่เราชอบการใช้ชีวิตของตัวเองที่สุด แม้จะมีบางเรื่องมากวนอารมณ์เราหลายอย่าง แต่เราชอบการใช้ชีวิตของเราเทอมนี้มาก (พอๆ กะ ซัมเมอร์ปีแรกเลย) เราออกกำลังกายตามที่กำหนด กินดี ลองทำอาหารใหม่ๆ หลายอย่าง เช่น ทำน้ำเต้าหู้ ตั้งแต่ก.ย. ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ เรากินน้ำเต้าหู้ทำเองเกือบทุกวันเลย
เทอมที่แล้ว ทำยีสต์ผลไม้กินเองด้วยนะ จนถึงวันนี้ก็ทำขนมปังกินเอง หาเมนูง่ายๆ มั่วๆ ใหม่ๆ ทำไปเรื่อย….
แล้วเป็นเทอมที่อารมณ์เราค่อนข้างมั่นคง ไม่เครียดง่าย เราสามารถปล่อยวางเรื่องเรียนได้มากขึ้น อาจสืบเนื่องมาจากเทอมก่อนหน้า เราก็คิดว่าทำมันให้ดีที่สุด ณ ปัจจุบัน ไม่ต้องไปคาดหวังกับผลลัพธ์ เหมือนอ่านหนังสือเพื่ออ่านหนังสือจริงๆ ไม่ได้อ่านเพื่อหวังว่าต้องได้ A
เทอมนี้ได้ไปเที่ยว ซีแอทเทิ้ล กับเพื่อนๆ ด้วย ซึ่งเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิท สำหรับเรา เป็นทริปหนึ่งที่ดีที่สุดเลย นอนอัดกัน 6 คนในห้องนอนเพื่อนคนเดียว 55
ให้อารมณ์เหมือนกลับไปเป็นเด็กมัธยมเลย
- ปิดเทอม ปีใหม่
เอาจริง มีเรื่องมากวนใจเหมือนกัน ตั้งแต่ธันวาปีที่แล้ว จนถึงตรุษจีนที่ผ่านมา ราหูพุ่งชนเรามาก ตั้งแต่อยู่ๆ บัตรเครดิตถูกชาร์จเงินหลายร้อยเหรียญ (คิดว่ามีคนแอบเอาไปใช้) กระเป๋าหาย เราป่วยซ้ำซาก ทั้งที่ปกติไม่ป่วย แล้วก็มีเรื่องให้คิดวนไปวนมา จนได้ไปปฏิบัติธรรมอีกรอบนั่นแหละ ถึงหยุดคิดวนไปมาได้
จนทำให้เราคิดว่า ชีวิตเราคงขาดการไป “พักผ่อน” ที่วัดไม่ได้แล้วล่ะ (เรามองว่าการปฏิบัติธรรมคือการพักผ่อนนะ55)
แด่ 2017
เรามองว่าปีนี้มีทางเดินใหม่ๆ รออยู่ จะเป็นทางไหน ตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ เราเรียนจบ เราจะอยู่ที่ไหนบนโลก เราจะทำอะไรก็ยังไม่รู้ (มีคิดไว้หลายอย่างเหมือนกัน….) เราเชื่อว่าปีนี้คงเป็นปีแห่งการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเดินทางไปที่ใหม่ๆ อีกซีกโลกโลก หรือเดินทางไปทางใหม่ๆ ใกล้ๆ บ้าน (เช่นเราลงเรียนเซรามิก ปั้นหม้อที่มหาวิทยาลัย) รวมถึงลองเดินลงไปในใจตัวเองดู
ไปรู้จักตัวเองให้เพิ่มขึ้นอีกนิดนึง 🙂
ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ก็ยังโอเคนะ สู้ต่อไปเนอะ จะพยายามอัพให้บ่อยนะ แต่จริงๆ ชีวิตก็ไม่ค่อยมีอะไร ซ้ำๆ มาก วันธรรมดาก็ เรียน ออกกำลังกาย เล่มคอม อ่านนิยาย ทำกับข้าว เสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่เจอเพื่อนก็ทำขนม ไปจ่ายตลาด ออกกำลังกาย อ้อ! ทำการบ้าน กับ อ่านหนังสือด้วย ลืมได้ไง 55
You must be logged in to post a comment.