เราเคยไปซีแอตเทิล 2 ครั้ง
ครั้งแรกไปเองคนเดียว ครั้งที่สองไปกับกลุ่มเพื่อน, ได้ไปสถานที่ทั้งใหม่และซ้ำ แต่เมื่อบรรยากาศรอบข้างต่างจากเดิม ก็ย่อมให้ความรู้สึกแตกต่าง
เรารู้จัก Seattle ครั้งแรก จากนิยายเรื่องแสงดาวฝั่งทะเลของกิ่งฉัตร พระเอกนางเอกนั่งรถไฟสายแสงดาวฝั่งทะเลขึ้นมาจากซานฟรานฯ ซึ่งเราก็นั่งรถไฟสายเดียวกันเป๊ะๆ ขึ้นมา ตามรอยเท้าของพวกเขาไปสถานที่ๆ นั้นจริงๆ
ความรู้สึกเหมือนเรากำลังจะทำจินตนาการที่เคยฝันถึงให้เป็นจริงยังไงไม่รู้
ที่นี่อาจเป็นพื้นที่ทับซ้อนของความทรงจำของเรา
เมืองต้นกำเนิดสตาร์บัคส์ Microsoft Amazon และอีกมากมาย ดูเป็นเมืองที่ผสมทั้งวิทย์และศิลป์ได้ลงตังดีจัง ขึ้นชื่อว่าเมืองแห่งสายฝนแบบนี้ อย่าไปง้อดวงอาทิตย์เลย ฟ้าสีเทา ฝนจะตก เราก็ตะลุยเที่ยวแบบไม่แคร์
ว่าแล้วก็ไปกัน ป่ะ
MUST GO
- Space Needle
ขึ้นไปแล้วเห็นวิวทั่ว Seattle ในแบบ 360 องศาเลย เป็นที่ๆ ครั้งหนึ่งต้องมาขึ้นเห็นวิว ซึ่งจะเห็นไกลไปถึง Mt. Rainier เลย ก่อนขึ้นก็มีถ่ายรูปฟรี (รวมราคาบัตร)
เราไปกัน 5 คนก็ถ่ายรูปรวมกัน แล้วค่อยขึ้นไปเอารูปจากตู้อัตโนมัติด้านบน เพราะเรามี 5 คนและแต่ละคนสามารถเลือกได้คนละลาย (เราแสกนบัตรและกรอกอีเมล) เราเลยมีรูปหน้าเดียวกับ 5 พื้นหลังเลย
ตั๋วค่าขึ้นมีทั้งแบบที่นี่ที่เดียวหรือจะรวมกับ Museum อื่นก็จะได้ลดราคานิดหน่อย หรือถ้ามีเพื่อนทำงานที่ Microsoft ก็จะได้ส่วนลดด้วย
จำนวนคนที่มาขึ้น Speed Needle เฮ้ย เราเป็นหนึงใน 50 ล้านคนว่ะแกร
2. Chihuly Garden and Glass
ไปดูเขาเป่าแก้ว คนชอบศิลปะต้องรักที่นี่แน่ๆ เป็นดีไซน์แก้วในรูปแบบต่างๆ ด้านนอกมีสาธิตการเป่าแก้วให้ดูด้วย และมีสวนที่จัดวางแก้วในดีไซน์ต่างๆ ซึ่งที่นี่อยู่ติดกับ Space needle ถ่ายรูปออกมา ณ บางจุดก็จะเห็นทั้งแก้วของที่นี่และ Space needle เลย
รูปนี้ถ่ายผ่านหินสีม่วง ไม่ได้ปรับสีเลยจ้า
3. Pike Place Market
ตลาดขนาดใหญ่ ที่ขายทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่ของสด ของที่ระลึก อาหาร ดอกไม้ เป็นจุดยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ของกินยอดฮิตเห็นจะเป็น pike place chowder เป็นซุปครีม แต่เราไม่กินเลยขอบายจ้า
4. สตาร์บักส์สาขาแรก
อยู่ตรง Pike place market นั่นแหละ แนะนำให้ไปแต่เช้าคนจะไม่เยอะ ถ้าไปตอนสายๆ บ่ายๆ ต่อคิวกันยาวมาก ส่วนรสชาติก็ไม่ต่างจากสาขาอื่นนะ มีขายของที่ระลึกพวกแก้ว ถ้วยมากมายเลย
5. Gum Wall
กำแพงหมากฝรั่ง ที่ได้แต่คิดว่าใครเป็นคนคิด เป็นที่เที่ยวยอดฮิตและน่าขยะแขยงพอกัน ยิ่งไปกับเพื่อนแล้ว เราไม่กล้ายืนใกล้พวกมันเลย กลัวถูกแกล้ง ซึ่งก็มีคนหนึ่งโดนผลัก (เบาๆ) เหมือนกัน
University of Washington – Seattle
อีกหนึ่งมหา’ ลัยที่ดีที่สุดในอเมริกา บรรยากาศดูมีความคลังและทันสมัยในเวลาเดียวกัน เป็นที่ๆ เราเกือบจะได้มาเรียนหลายรอบมาก
Theo Chocolate factory
ไปดูโรงงานทำช็อกโกแลต ซึ่งต้องจองล่วงหน้า ข้างในมีตั้งแต่บรรยายประวัติโกโก้ ให้เราชิมช็อกโกแลตหลายรสชาติของเขา ซึ่งเราชอบรสช็อกโกแลตส้มมาก หรือ cocoa nib ก็อร่อยมาก เพิ่งเคยกินเป็นครั้งแรก และต้องซื้อกินมาตลอดจนถึงวันนี้
อื่นๆ ที่น่าไปก็เช่น
- Museum of Pop Culture
- The Museum of Flight
- Seattle underground tour ทัวร์ใต้ดินเมืองซีแอตเทิล
Eat
Chaco Canyon Cafe
ร้านนี้อยู่แถวมหา’ลัย เป็นอาหารวีแกน ออแกนิก ช่วงที่เราไปเที่ยวเองรอบแรก เรากินมังสวิรัติอยู่ เลยได้เข้าร้านวีแกนเยอะมาก
Moore Coffee Shop
เติมความคิ้วต์ให้ชีวิตกับกรีนทีลาเต้หน้าแมวเหมียว
Tilikum Place Cafe
ร้านนี้เป็นแนว Brunch สไตล์อเมริกัน รีวิวดีมาก ต้องจองคิวด้วย เพราะดังและคนเยอะมากๆ อาหารเช้ามีให้เลือกมากมายเลย เราก็กินของตัวเองแล้วก็แย่งของเพื่อนกินไป
PIE
ร้านนี้ชื่อ Pie และขายพายตามชื่อ อยู่ติดกับ Hostel ที่เราพัก (เราพักที่ Hostel Hostel) รีวิวในเน็ตดีมาก เราก็ลงไปซื้อพายตอนดึก…ไม่อ้วนเอาเท่าไหร่ล่ะ รู้สึกผิดมาก แต่ก็อร่อยมากแบบหยุดไม่อยู่
กินพายอันนี้สองวันติด วันแรกกินเบอรี่พาย วันที่สองกินแบล็อกเบอรี่พาย เนื้อเบอรี่ชุ่มฉ่ำ แป้งกรอบกำลังดี โอ๊ย คือดีงาม เหมาะกับมื้อดึกสุดๆ
Flying Apron
ร้านนี้รสชาติธรรมดา แต่อยู่ตรงข้ามโรงแรมเราเลย มีชายขนม Vegan เยอะพอสมควร ชอบที่มีเขียนวัตถุดิบชัดเจน เรามากินสองวัน สั่งมัฟฟินช็อกโกแลตวีแกน กับมัฟฟิน รสชาติถือว่าโอเคในสไตล์วีแกน
Gelatiamo
ร้านนี้มาในทรีม กินไอติมอย่างไรให้แมชกับสีเล็บ 55 เราสั่งไอติม 2 ลูกคือช็อกโกแลตและแบล็กเบอรี่ ซึ่งก็งงจนถึงทุกวันนี้ว่าทำไมแบล็กเบอรี่ถึงออกมาเป็นสีชมพู….
Molly Moon
ร้านนี้ดังสุดๆ ของ Seattle เป็นไอติมโฮมเมด มีตั้งแต่รสคลาสิกพวกช็อกโกแลต (ที่เรากิน) วนิลา ไปจนถึงรสชาติกลิ่นดอกไม้ลาเวนเดอร์น้ำผึ้ง รสชาเอิร์ลเกย์ก็ใช้ได้นะ หอมมากเลย
นั่งกินไป ฝนด้านนอกก็ตกโปรยลงมา โรแมนติกไหมล่ะ กินไอติมกลางสายฝนเนี่ย
Booklover
คนบ้าหนังสืออย่างเรา พอเที่ยวไปสักพักก็จะเริ่มอยากเฟดตัวไปหาหนังสืออ่านสักครึ่งวัน แค่ตรงข้ามโรงแรมเราก็มีร้านหนังสือมือสองชื่อ Ophelia’s Books ที่น่าแวะเข้าไปส่องแล้ว ส่วนร้านใหญ่ต้องยกให้
The Elliott Bay Book Company
ด้านในมีเก้าอี้ มีมุมให้นั่ง มี cafe ขายอาหารและขนมด้วยนะ ที่เด็ดคือจะมีโน้ตจากพนักงานแหละ เป็นคนเขียนว่าหนังสือเล่มนี้ดียังไง คล้ายกับรีวิวสั้นๆ แถมมีมุมที่พนักงานเลือกหนังสือเล่มโปรด มุมแนะนำหนังสือจากพนักงาน ดีงาม เรานั่งหาหนังสืออ่านวนไปจ้า
Sky Sea and Me
จาก pike place market
จาก Greenlake
ตามนิยายมา พระเอกนางเอก มาเดินเล่นตอนเช้ากันที่ริมทะเลสาปแห่งนี้
จาก Kerry Park จุดชมวิวเมือง Seattle และดูพระอาทิตย์ตกดิน พิเศษกว่าดูจาก Space needle ตรงที่เราจะเห็น space needle ด้วย
จาก Kerry park ตอนพระอาทิตย์ตกดิน
เราหลงรักโมเม้นต์ตอนที่พระอาทิตย์ตกดินมาก เรียกได้ว่าทุกทริปของเรา จะพยายามไปหาที่นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินตลอด
You must be logged in to post a comment.