บอกชื่อเกาะ Tsushima ไป ใครจะไปรู้จัก
นอกจากความลึกลับของเกาะนี้ มันมีความแปลกซ่อนอยู่มากมาย ตั้งแต่ว่าเป็นเกาะญี่ปุ่น แต่ดันอยู่ใกล้เกาหลีมากกว่า แต่ถึงจะอยู่ใกล้ขนาดนี้ก็ยังคงความเป็นญี่ปุ่นไว้ทุกระเบียบนิ้ว ถนน ผู้คน ภาษา เจแปนนีสสไตล์ล้วนๆ นะ
เรารู้จักเกาะนี้จากกระทู้พันทิป ก็ปักธงไว้ตั้งแต่วันนั้นเลยว่าจะต้องไปให้ได้ ไหนๆ มีวันหยุด 3-4 วันก็เลย เอาวะ จัดไป
Day 1
เช้าวันใหม่ที่ปูซาน ระหว่างรอขึ้นเรือ
ไป Tsushima จะนั่งเรือไปจากฟุกุโอกะก็ได้ จากปูซานก็ได้ เราอยู่เกาหลีก็เริ่มต้นที่ปูซานสิ ไปขึ้นที่ท่าเรือปูซาน เราซื้อตั๋วมาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ล่วงหน้า ได้ราคาโปรมาอย่างถูก 3 หมื่นวอนเศษๆ (พันกว่าบาทเอง) แต่ต้องจองผ่านเว็บเกาหลี หรือไปซื้อตรงท่าเรือเลยก็ได้ ราคาน่าจะเกือบๆ แสนวอน
ใช้เวลานั่งเรือแค่ชม.ครึ่ง แต่คลื่นแรงมาก ก็เป็นมหาสมุทรอ่ะเนอะ ใครเมาเรือ เตรียมยาหอม ยาดมไว้ให้ดี เพราะคนในเรือเรา เมาคลื่นกันเกินครึ่งลำเลยมั้ง และใช่ค่ะ ทั้งลำมีแต่คนเกาหลี…..
เกาะ Tsushima มันจะมีเมืองหลัก 2 เมืองที่คนไปเที่ยวคือ Hitakatsu อยู่ทางเหนือ แล้วก็ Izuhara อยู่กลางๆ เป็นเมืองใหญ่สุด (ที่มีซูเปอร์มาร์เกตแค่ร้านเดียว 555)
พอมาถึงเกาะญี่ปุ่นปุ๊บ ก็ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งปกติตม.ญี่ปุ่นจะไม่ค่อยถามอะไรเราเยอะ แต่รอบนี้ถามเยอะมากกกกกกก มากที่สุดตั้งแต่เข้าญี่ปุ่นมาเลย อาจเพราะเป็นของแปลกด้วย เพราะทั้งตรงตม. มีแต่คนเกากับคนญี่ปุ่น ซึ่งตม.ทำหน้าอึกอักเล็กน้อย เพราะไม่รู้จะคุยกับเราภาษาอะไร นี่ก็เลยบอกไปว่าพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ถามมายาวเลยจ้ะ ตั้งแต่ จะกลับวันไหน จะไปไหนบ้าง ตอนนี้อยู่เกาหลีหรอ อยู่เมืองอะไร ฯลฯ แล้วก็สแตมป์ให้ 15 วันตามมาตรฐานญี่ปุ่นไป
ส่วนศุลกากร เราไม่โดนตรวจอะไรเลยนะ เดินผ่านชิลล์ๆ
พอลงเรือมาแล้วก็จะมี information อยู่ตรงนั้น ไปหาข้อมูลจากเขาก็ได้ พนักงานพูดภาษาเกาหลีได้ แต่พูดอังกฤษได้ไหม ไม่รู้ เพราะนี่ไปถึงเขาก็พูดเกาหลีใส่เลย และเราก็ตอบเขาไปด้วยญี่ปุ่น ตลกมาก ชีวิต 555 แล้วเกาะนี้ก็ไม่ค่อยมีภาษาอังกฤษนะ ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก มีเกาหลีบ้างประปราย แต่ตามถนนจะได้ยินแต่ภาษาเกาหลีแน่นอน เพราะนักท่องเที่ยวเกาหลีเยอะมากกกก 99% ของนักท่องเที่ยวคือเกาหลี
และขอบอกบรรยากาศเกาะนี้ไว้เลยว่าเป็นเกาะที่เงียบมากกก เหมาะมากกับคนที่เบื่อๆ เมือง เบื่อความวุ่นวาย อยากมาสโลว์ไลฟ์อยู่เฉยๆ
คนที่มาเที่ยวเมืองนี้ปกติจะนิยมขี่จักรยานนะ แต่เราไม่ใช่สายจักรยานเลยข้ามๆ ไป ค่าเช่าจักรยานน่าจะวันละประมาณ 1000 เยน ที่เช่าจักรยานที่นิยมก็ร้าน Chinguya จองจักรยานล่วงหน้าก็ได้ แต่เหมือนในเว็บจะเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดนะ
โรงแรมที่เราจะพักคืนนี้ชื่อว่า Tsushima Hotel Kamiso กดจิ้มตรง contact แล้วเขียนไปจองกับเขาเลย เราไม่แน่ใจว่ารร. พูดภาษาอังกฤษได้ไหม เพราะเขียนไปจองเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เขาตอบกลับมาเป็นเกาหลี…… (อีกละ) โรงแรม
แล้วโรงแรมจะมีรถมารับตรงท่าเรือนั่นแหละ เราก็เก็บกระเป๋าไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วก็เดินเที่ยวในเมืองชิลล์ๆ แล้วค่อยกลับมา ขึ้นรถ ไปโรงแรมกัน โรงแรมนี้มีออนเซนให้แช่ด้วยนะ แต่มีเวลาเปิดปิด ก็แช่ทั้งเช้า ทั้งเย็น ฟินมากกกก
วิวจากระเบียบห้องเราเอง
ค่าห้องประมาณ 5400 เยนต่อ 1 คน
อาหารเช้า 500 เยน
อาหารเย็น 1300 เยน
แนะนำให้จองห้องพร้อมอาหารเช้าไปเลย
ในส่วนของอาหารเย็น และอาหารเช้านั้น ก็หน้าตาประมาณนี้
Day 2
วันนี้ เราจะไปเมือง Izuhara กัน (เย่!) รอรถจากโรงแรมมาส่งที่ท่าเรือ แล้วจากท่าเรือเราก็จะนั่งบัสไปกัน บัสจะออกทุกชม. ครึ่งหรือ 2 ชม.นี่แหละ ก็ต้องดูตารางรถกันไว้ให้ดี เราไปที่เคาร์เตอร์ information ไปซื้อ Bus pass แบบ 1 วัน ราคา 1000 เยน
รถบัสเป็นรถหวานเย็น จอดทุกป้าย ขับเลาะเขาที่ไกลมาก และช้ามาก ไม่เบียดไม่แซงสไตล์ญี่ปุ่น ไม่ใช่แบบอาจอชี่เกาหลี 555 ใช้เวลาเกือบ 3 ชม. กว่าจะถึง แต่วิวสวยดีนะ เงียบๆ ป่าๆ ดี เราชอบ
แนะนำว่าให้เข้าห้องน้ำก่อนขึ้นรถให้ดีน้าาา มันมีจอดที่ป้ายนึงประมาณ 5 นาที แต่ถ้าสื่อสารกับคนขับไม่รู้เรื่อง ก็อาจตกรถได้
รถบัสจะมาจอดป้ายสุดท้ายใจกลางเมืองพอดี มี information อยู่ตรงท่ารถ
เราพักที่ Toyoko inn
มาถึงก็บ่ายๆ แล้ว ออกไปเดินเล่นดีกว่า เมืองนี้เล็กๆ เดินแป๊บเดียวก็ถึง จริงๆ ขอแผนที่ walking trail จากโรงแรมก็ได้นะ มีไปสวน มีวัดด้วย สงบได้ใจมากมาย
Kaneishi Castle
เมืองนี้จริงๆ มีปราสาท แต่ตอนเรามากำลังปิดบูรณะอยู่ เลยได้แต่เดินเลียบๆ ปราสาทไป เหมือนเป็นปราสาทที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเกาหลีและญี่ปุ่นอยู่ด้วยนะ
ช่วงที่เรามาคือปลายเดือนพ.ย. ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี เลยได้เห็นใบสีแดงๆ เต็มไปหมด เป็นความจัดจ้านที่อยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ
ตอนเดินเข้าซูเปอร์นี่ มีแต่คนเกาหลีเยอะมาก กับคนญี่ปุ่นประปราย ชั้นบนสุดของห้างมีห้องสมุดประชาชนด้วยนะ เราก็เข้าไปนั่งเล่นมา ญี่ปุ่นก็ยังเป็นญี่ปุ่นอ่ะ วัฒนธรรมการอ่านของประเทศนี้แข็งแรงจริงจัง ขนาดเมืองนี้ไม่ค่อยมีเด็ก แต่ก็ยังมีโซนหนังสือเด็กใหญ่มาก และหนังสือหลากหลายมากด้วย
เราก็นั่งอ่านไป แฮปปี้มากกกก
เราชอบหนังสือโหมดนี้ เป็นโหมดแนะนำอาชีพให้ว่าถ้าอยากเป็นอาชีพนั้นนี่ จะเป็นยังไง มีตั้งแต่คุณครู คุณหมอ แดนเซอร์ เซฟ ฯลฯ
ส่วนมื้อค่ำ เราฝากท้องไว้กับซูเปอร์มาร์เกตตรงข้ามโรงแรม ราคาถูกมาก 3 กล่องนี้แค่พันเยนเอง ตอนแรกว่าเยอะ แต่กินไปกินมาก็อ้าว! หมดอ่ะ
Day 3
เดินข้ามถนนมาจากโรงแรมเราก็ถึงศาลเจ้าแล้ว ชื่อว่า Hachimangu Shrine มีเซียมซีให้เสี่ยงด้วย (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนนะ)
วิธีเสี่ยงเซียมซีก็คือหยอดเงิน 100 เยนลงไป แล้วเราก็จะได้ใบเซียมซีออกมา
ความแปลกของเกาะนี้ก็คือจะมีศาลพระภูมิ? ที่เป็นรูปแบบนี้เยอะมาก เดาว่าคงเป็นอะไรบางอย่างที่เขานับถือ เดินตามถนนก็จะเจอตลอด
มีเวลาเหลือก่อนขึ้นเรือกลับบ้าน เลยถือโอกาสเก็บตกบรรยากาศเมืองซักหน่อย
ได้ซื้อของนิดหน่อย หลักๆ ก็ขนมญี่ปุ่นนั่นแหละ กลับบ้าน
ตอนก่อนมาเกาะนี้ เราเพิ่งมาอยู่เกาหลีได้ไม่กี่เดือน ภาษาก็พูดไม่ค่อยได้ ไหนจะวัฒนธรรมมากมายให้ปรับตัวอีก ได้มาญี่ปุ่นสั้นๆ (ถึงจะเป็นญี่ปุ่นที่มีแต่นักท่องเที่ยวเกาหลีก็เหอะ) อย่างน้อยก็ได้มาอยู่ในที่ๆ รู้สึกคุ้นเคย ภาษาที่เข้าใจ ก็เยียวยาหัวใจได้ประมาณหนึ่งแหละ
แล้วก็ได้รู้ว่า ญี่ปุ่น ก็เป็นคอมฟอร์ตโซนของเราประมาณหนึ่งเหมือนกันนะ
Tsushima, ยินดีนะ ที่ครั้งหนึ่งเราเคยเจอกัน
You must be logged in to post a comment.