รีวิวชีวิตเทอมแรก “เกาหลีศึกษา” Korea University Fall 2019

รีวิว 1 เทอมที่ผ่านมากับ ป.โท เกาหลีศึกษา ที่เกาหลี ที่ผ่านมาเป็นเทอมแรก ต้องเรียนทั้งหมด 4 เทอม (2 ปี) เทอมที่ผ่านมาลงวิชา ประวัติศาสตร์เกาหลี(วิชาบังคับ) /ศาสนาในเกาหลี (วิชาเอก) / Southeast Asia (เลือกเสรี)/ ภาษาเกาหลี เรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด ยกเว้นวิชาภาษาเกาหลี

วิชาแรก “ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลี”

อาจารย์คือคนที่โหดที่สุดของคณะเรา 555 เจอกันเทอมแรกเลย 555

เนื้อหาคือเรียนตั้งแต่เกาหลีหลัง WWII เน้นไปที่ก.ถูกญป ล่าอาณานิคม ค.สัมพันธ์ของเกาหลีกับเมกา เกาหลีเหนือ (การเกิด)ชาตินิยม ประชาธิปไตย comfort women แล้วก็มีเรียนเรื่อง กลุ่มนักศึกษาประท้วงรัฐบาลทหาร (คล้าย 6 ตุลา/14 ตุลามากก มากแบบพีค) มีละครล้อการเมืองด้วย แล้วคือที่บอกว่าพีคคือเพื่อนในห้องส่วนมากเป็นฝรั่ง เมกา อังกฤษ โลกที่ 1 ไรงี้ นางก็แบบไม่เข้าใจ งงกันมากว่า ทำไมต้องแสดงออกด้วยวิธีนี้ จะทำล้อเลียนทำไม คือนี่แบบ เห้ย เราเข้าใจ 555 มันพูดตรงๆ ไม่ได้ไง ไม่งั้นก็คุกดิ

แต่ละอาทิตย์วีคก็คือเรียนแต่ละเรื่องที่เราบอกๆ ไปข้างบนนั่นแหละ อ.ก็จะสั่งให้อ่านหนังสือ 1 เล่ม แล้วก็ไปสรุปเนื้อหาหลักมา พร้อมค.เห็นของตัวเอง มีมิดเทอมและไฟนอล ที่แบบแค่คำถามก็ยาว 2 หน้า A4 ละ เขียนตอบเป็น essay 10 หน้าไรงี้ (ไฟนอลที่เราเคยบ่นว่าสอบบ่ายโมง – เทียงคืนอ่ะ)

มิดเทอมเหมือนคนจะได้คะแนนไม่ดีเยอะ (ที่นี่เราไม่รู้เกรดคนอื่น ไม่รู้เกรดเฉลี่ยในห้อง ไม่รู้อะไรสักอย่างเลย) อ.ก็เลยให้หนังสือเพิ่มมา 2 เล่ม ทำอ่าน สรุป เหมือนเดิม จะได้คะแนนเพิ่ม คะแนนมิดเทอมเรากากนะ แต่อ.ให้ทำอะไรก็ทำครบ อ.นางชมเรื่องค.ขยันเราด้วย TTTT เป็นปลื้ม 555

อัตราส่วนคะแนนวิชานี้นะ เต็มร้อย มิดเทอม 30 / ไฟนอล 70 ใช่ค่ะ ที่เหลือคือเป็นคะแนนเสริมหมด ทุกอาทิตย์นศ.จะสลับกันพรีเซนต์หนังสือที่อ่าน ที่เกาหลีเกรดสูงสุดคือ A+ (4.5) แล้วก็ A, B+ ไรงี้ แล้วตัดสูงมากคือ A+ ต้องได้ 95 คะแนนจ่ะ (ชั้นว่าป.ตรีชั้นตัด A ที่ 93 คือโหดแล้ว 555)

วิชาถัดไป “ศาสนาในเกาหลี”

อาจารย์ก็เพิ่งเรียนจบป.เอกมาสดๆ มาสอนเป็นเทอมแรก เราก็เพิ่งเคยเรียนป.โทเป็นครั้งแรก ก็งงๆ กันไป 555 แต่เหมือนอาจารย์ปรับเนื้อหาให้ง่าย ให้ชิล ก็เลยสบายๆ ทุกอาทิตย์ก็มีหนังสือให้อ่าน 2 บท แล้วก็เขียน reflection ไม่มีสอบแต่มี reserch paper แทน

เนื้อหาก็จะเรียนศาสนาต่างๆ ในเกาหลี เช่นพุทธ คริสต์ ขงจื้อ ลัทธิใหม่ๆ เช่น unification church (ที่จัดงานแต่งงานใหญ่ๆ อ่ะ) ไรงี้ เปเปอร์ทำเรื่องอะไรก็ได้ ที่เกี่ยวกับศาสนาในเกาหลี ในห้องก็อ.เลคเชอร์ครึ่ง แล้วก็ discussion ครึ่ง (คลาสนี้ต้องพูดเยอะอยู่ๆ)

แล้วอ.เหมือนเพิ่งนึกได้ตอนอาทิตย์สุดท้ายว่า เนื้อหาชิลล์ไป แต่ก็ไม่ทันละ อ.บอกว่าถ้าสอนเทอมหน้าจะปรับให้เยอะกว่านี้ 555 ก็ถือว่าโชคดีไป 55555

วิชาที่ 3 Southeast Asia and ASEAN

เป็นเลือกเสรีนอกเอก เรียนเรื่องแถวบ้านเรานี่แหละ 55555 แต่อ.นางถนัดอินโดนีเซียมากกว่า เป็นวิชาที่สนุกมากกกก เพราะเรียนกับเพื่อนต่างเอก เราชอบเอนเนอร์จี้เพื่อนอินโดนีเซียคนนึงมาก นางต่อรองเก่ง แบบตอนแรกอาจารย์จะให้อ่านหนังสือ4-5 บท ต่อสัปดาห์ นางต่อเหลือครึ่งนึง 5555

ไฟนอลเปเปอร์ นางก็ไปต่อรองลดปริมาณลง 555 ชอบเอเนอร์จี้ครูด้วย ชิล แอบตลก 555 ครูบอกนี่จะคุยกับเธอ (เพื่อนอินโด) ต้องตั้งสติมากเลยนะ  เพราะต่อรองเก่งเกิน 5555 คลาสนี้ครึ่งนึงเป็นคนเกา อีกครึ่งก็แถวๆ บ้านเรานี่แหละ เนื้อหาหนักไปทาง IR กับปวศ ซึ่ง IR เราปวดหัวมาก เพราะไม่มีพื้นฐานเลย แต่ก็สนุกดี เวลาเรียนเกี่ยวกับไทย ได้อ่านเรื่องที่เราไม่เคยเรียนมาก่อนในรร.

ไฟนอลไม่มีสอบ แต่จะต้องทำ reserch paper (อะไรก็ได้เกี่ยวกับ ASEAN) ซึ่งเราจะทำเกี่ยวกับไทยอยู่แล้ว 5555 แล้ว suggest theme ที่อ.ให้คือ รัฐประหาร ชั้นแบบไม่! เราต้องเลือกเรื่องที่จะทำให้เราสนุก แล้วไม่เครียด 555 เลยทำเรื่องศาสนาพุทธในไทยไปๆ

ใครที่ต้องเขียน essay วิชาการภาษาอังกฤษ จะรู้จักการอ้างอิงที่มันมีหลายสไตล์ เช่น MLA APA ชิคาโก้ แล้วคือทั้ง 3 วิชาข้างบน นางเอาไม่เหมือนกันเลย ตอนทำอ้างอิงคือชั้นปวดหัวมาก 5555 ** MLA ส่วนมากพวก liberal art ส่วน APA ใช้กับสายวิทย์ สังคม จิตวิทยา

พอได้ลงคอร์สนี้ที่เป็นของ Area studies แล้วหนัก IR มากก็รู้ว่าคิดถูกสุดๆ ที่เลือกเรียนเกาหลีศึกษา ตอนแรกเราลังเลระหว่าง Korean studies กับ Area studies แต่ว่าละว่ารัฐศาสตร์คือไม่ใช่สไตล์ชั้น 555

วิชาสุดท้ายชื่อคอร์ส reading in Korean

ก็คือวิชาภาษาเกาหลีแหละ แต่เน้นการอ่าน วิชานี้ชิลล์ อาจารย์ก็เพิ่งเคยมาสอนที่ม.เราเป็นเทอมแรก 5555 ทั้งห้องมีนักเรียน 3 คน อ.ใช้ชีทบางส่วนจากหนังสือของอีแด 555 กึบ 4 ตอนท้ายๆ มีเอากึบ 5 มาแทรกๆ บ้าง

วิชานี้ค่อนข้างชิลล์เพราะอาจารย์ทำให้ง่าย แล้วเราก็เคยเรียนเกือบหมดแล้ว (แต่ลืมหมดแล้ว) มีสอบนิดหน่อยไฟนอล ที่อ.บอกว่าไม่ต้องเครียดดดดดดดดดดดดด ไม่ต้องกังวลเรื่องคะแนน (เดาว่านางให้ A+ ทุกคน) แล้วนางก็ชอบเมาท์นู่นนี่ไปเรื่อย 555 ชอบๆ

สรุป 1 เทอมที่ผ่านมา

ก็คือไม่ได้ยากแบบเว่อร์นะ แต่แค่แบบต้องขยันหน่อย เพราะอ่านเยอะ แล้วเราก็เสียเปรียบเพื่อนเรื่องภาษาอยู่แล้ว เพื่อนเมกันอ่าน 2 ชม. เราอ่าน 6 ชมไรงี้ (แต่คือชิน เพราะป.ตรีก็มีชีวิตแบบนี้ เอาจริงๆ คือแย่กว่านี้ เพื่อนอ่าน 2 เราอ่าน 12 ไรงี้ 555)

แต่รวมๆ ก็คือเรียน 4 วันต่ออ. เรามีเวลาไปเรียนโยคะอีกอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ทำท่ายืนด้วยหัว (headstand) ได้แล้วด้วย เดี๋ยวๆๆ 555 มีช่วงประสาทเสีย 2 อาทิตย์แรก เพราะทุกอย่างแบบตู้ม แล้วเราก็งงว่าป.โท ต้องเรียนยังไง ต้องทำอะไร ครูคาดหวังอะไร แต่พอผ่านไปก็คือ เขาสั่งให้ทำไรก็ทำๆ ไป 555